กรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดภาคอีสานติดต่อกัน โดยล่าสุดลอบเผาโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ และยังลอบวางระเบิดโรงเรียนโนนชัยศรีวิทยา ต.โนนชัยศรี อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ทำเอาตำรวจและทหารวิ่งสอบสวนหาตัวคนร้ายกันหัวปั่นแล้วนั้น
ให้1แสน รางวัลแจ้งเบาะแสจับเผารร.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ม.ค.
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 พร้อมนายวิเชียร ชวลิต รอง ผวจ. บุรีรัมย์ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตกุล รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ นายสุรศักดิ์ ศรีสว่างรัตน์ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองวิทยาการ เก็บรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายตามบริเวณขอบหน้าต่าง โต๊ะเก้าอี้ ภายในห้องเรียนที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้เรียกครูเวร ภารโรง ตำรวจหมู่บ้าน และผู้ต้องสงสัยอีกหลายคนเข้าสอบปากคำพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อเทียบเคียงว่าตรงกับลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลตรวจลายนิ้วมือภายใน 2 วัน
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า
การบุกเผาโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับการลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะดูจากรูปการณ์ไม่เหมือนกัน ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์เป็นการจงใจเผาให้วอดเสียหายทั้งหลัง ส่วนโรงเรียนบ้านตาเหล็งคล้ายเป็นการสร้างสถานการณ์เหมือนไม่เจตนาที่จะเผาให้เกิดความเสียหาย
อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์
ทางตำรวจภาค 3 ได้ตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย 100,000 บาท ขณะนี้ได้สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบพยานรวมทั้งรวบรวมหลักฐานจับกุมคนร้าย คาดว่าน่าจะได้ตัว ในไม่ช้านี้
ในขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3
น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมต.สำนักนายก สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยกับผู้เสื่อข่าวว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงเรียนในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่องนั้น สร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อจังหวัดเป็นอย่างมาก ถึงขั้นระบุเป็นการวางเพลิง โดยเฉพาะบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดที่ยังใช้กฎอัยการศึกอยู่ อาจจะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ลักษณะคลื่นใต้น้ำ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของบุรีรัมย์เลย
ตนในฐานะอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ขอเสนอรางวัลนำจับสำหรับผู้ชี้เบาะแสหรือเห็นคนร้ายขณะก่อเหตุเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท การเสนอรางวัลนำจับครั้งนี้เพื่อต้องการให้ยุติการก่อเหตุวางเพลิงดังกล่าว เพื่อไม่ให้ภาพพจน์ของ จ.บุรีรัมย์ เสียหายไปมากกว่านี้
ทางด้าน พล.ต.ต.พิสัณห์อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์
เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ อาคารเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 วัดเหนือ สังกัดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.49 ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และเหตุไฟไหม้สะพานไม้ข้ามลำห้วยเชื่อมระหว่างบ้านหนองกุงพระนอน หมู่ 6 ต.เขาพระนอน ต.นาเชือก อ.ยางตลาด เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.49 ว่า
ทั้ง 2 เหตุการณ์พนักงานสอบสวนสรุปว่าต้นเหตุการเกิดไฟไหม้มาจากการกระทำของบุคคล ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ขณะนี้ได้รายงานให้ ผบช.ภ. 4 รับทราบแล้ว คดีนี้ไม่มีใครมากดดันการทำงานของตำรวจ ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนบ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นั้น ตนได้รับรายงานมาแล้วว่าโรงเรียนเสียหายไม่มาก เพราะสามารถดับเพลิงไว้ได้ทัน ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้นจะดำเนินการเมื่อพบว่าทางโรงเรียนมีการบกพร่องละเลย
แต่กรณีโรงเรียนบ้านตาเหล็งไม่ได้มีการละเลย มีการตรวจสายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนก็จะให้ทาง จ.บุรีรัมย์ดำเนินการ ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บริหารเพียง 1 รายเท่านั้น และการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็จะเป็นอำนาจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ไม่ใช่อำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ