จับแก๊งแสบ!เช่าซื้อ จยย.แจ้งเท็จรถหาย-ส่งขายลาว
สน.บุคคโล จับ 5 ผู้ต้องหาแก๊งแสบ เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และแจ้งเท็จว่ารถหาย หวังเอาเงินประกัน แต่กลับส่งให้ผู้ร่วมขบวนการขายในประเทศลาว พบทำมาแล้ว 14 ครั้ง ได้ค่าจ้างคันละ 1,700-20,000 บาท
วันนี้(11 ม.ค.)เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8(บก.น.8) พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.อภิชาติ เชื้อเทศ รอง ผบก.น.8 พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ สว.สส.สน.บุคคโล แถลงข่าวจับกุม นายธวัชชัย พรมมาจุ้ย อายุ 31 ปี ,น.ส.ลาวัลย์ แซ่ตั้ง อายุ 42 ปี ,น.ส.เนตรชนก วัยดารา อายุ 36 ปี ,นายพีระศักดิ์ หรือศักดิ์ ชูราศรี อายุ 41 ปี และนายนิยม หรือเตี้ย ถานอ่อน อายุ 29 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
ใบขายรถ บริษัท เม้งยานยนต์ จำกัด ,
สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพฯ 1 เล่ม
ใบตารางกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 1 แผ่น
กุญแจสำรองของรถจักรยานยนต์ 2 ดอก
ใบเสร็จรับเงินและใบส่งงวดรถ
พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวว่า
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้รับแจ้งความรถหายจากนายธวัชชัย น.ส.ลาวัลย์ และน.ส.เนตรชนก ผู้ต้องหาทั้งสามคนว่า ได้จอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีชมพู ซึ่งเป็นรถใหม่ยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขเครื่อง 4 DO 118830 ไว้ที่บริเวณตลาดนัดจินดามณี เพื่อลงไปทำธุระเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากทำธุระเสร็จกลับมาพบว่ารถคันดังกล่าวหายไป โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนลักเอาไป จึงมาแจ้งความให้เจ้าพนักงานลงบันทึกประจำวัน เพื่อที่จะนำไปเบิกเครมประกันเรียกค่าสินไหมจากกรณีรถหาย
พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวต่ออีกว่า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสอบถามข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดจนพบพิรุธว่า รถคันดังกล่าวมิได้หายจริง จนกระทั่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายพีระศักดิ์ และนายนิยม ให้ร่วมกันวางแผนเช่าซื้อรถ จยย.คันดังกล่าว มาจากบริษัท เม้งยานยนต์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย)จำกัด
จากนั้นก็จะส่งสัญญาซื้อขาย และรถจยย.ให้นายพีระศักดิ์ นำไปขายต่อที่ประเทศลาว เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมนายพีระศักดิ์ และนายนิยม ได้ที่หมู่บ้านเศรษฐกิจ ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวน
พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวต่อว่า
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ได้ร่วมกันกระทำดังกล่าวมาประมาณ 14 ครั้งแล้ว โดยวิธีการจะเริ่มจากทางประเทศลาวสั่งออเดอร์มาทางนายสมพงษ์ มัฉชิมะปุระ ญาติของนายพีรศักดิ์ว่า ต้องการรถรุ่นไหนพร้อมทั้งโอนเงินมาให้ค่าจ้างคันละประมาณ 1,700 -20,000 บาท จากนั้นนายสมพงษ์จะมาบอกนายพีระศักดิ์ และนายนิยม หาคนรับจ้างเช่าซื้อรถอีกทอดหนึ่ง
กระทั่งมาจ้างนายธวัชชัย น.ส.ลาวัลย์ และน.ส.เนตรชนก คนละ 1,500-3,000 บาท ให้ไปเช่าซื้อรถมาจากบริษัท เม้งยานยนต์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด จากนั้นก็จะส่งสัญญาซื้อขาย และรถจยย.ให้นายพีระศักดิ์ นำไปขายต่อที่ประเทศลาว
โดยฝากไปทางรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สายกรุงเทพ-เขมราฐ จากนั้นนายสมพงษ์ จะรอรับส่งต่อไปยังประเทศลาวอีกที หลังจากนั้น นายธวัชชัย น.ส.ลาวัลย์ และน.ส.เนตรชนก ก็จะเข้าไปแจ้งความรถหายตาม สน. ต่าง ๆ เพื่อนำหลักฐานไปเครมกับทางบริษัทประกันภัยที่ทำไว้เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย และแจ้งข้อความแก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้กระทำความผิดโดยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์