สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.50 น. วานนี้ (7 ม.ค.) ร.ต.ต.นิติกร จันหาญ ร้อยเวร สภ.อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน บริเวณถนนปากทางเข้าน้ำตกปาโจ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี หมู่ 2 ต.บาเจาะ ห่างจาก สภ.อ. บาเจาะประมาณ 500 เมตร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.นพดล เผือกโสมณ รอง ผบก. ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รอง ผกก.สส. นำกำลังพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เหยี่ยวดง นปพ. ภ.จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบ พบหลุมระเบิดกว้าง 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต และชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจายเกลื่อน แรงระเบิดทำให้ศาลาที่พักริมทางเสียหายเล็กน้อย
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ
พ.จ.อ.ประภาส สะตะพันธ์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน หัวหน้าชุดลาดตระเวน ฉก.32 ตั้งฐานปฏิบัติการบริเวณน้ำตกปาโจ นำกำลังรวม 6 นาย เดินเท้าลาดตระเวนตรวจตราความเรียบร้อยมาตามเส้นทางดังกล่าว ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจาก ร.ต.ต.ประถม พฤกษศรี อายุ 74 ปี อดีตนายตำรวจ สภ.อ.บาเจาะ อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนพิพิธปาโจ ใกล้จุดเกิดเหตุ ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้าย ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงถล่มใส่บ้านได้รับความเสีย หาย พ.จ.อ.ประภาส กับพวกจึงรุดไปตรวจสอบ
ถึงที่เกิดเหตุ
คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กน้ำหนัก 5 กก. ที่ฝังดักไว้ริมถนนด้วยโทรศัพท์มือถือทำให้ เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เดชะบุญเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนอยู่ห่างรัศมีแรงระเบิดทำให้ เจ้าหน้าที่รอดตายอย่างเฉียดฉิว
แม่ทัพ4สั่งล่าตัว กลุ่มผู้ชุมนุมป่วนตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รอง ผกก.ส.ส. สภ.อ.บาเจาะ กล่าวว่า
คนร้ายก่อเหตุยิงถล่มบ้านอดีตนายตำรวจครั้งนี้ เป็นการวางแผนลวงให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยลอบฝังระเบิดดักเอาไว้หมายสังหาร แต่โชคดีหลังเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุยังไม่ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบเนื่องจากเกรงว่าจะตกเป็นเป้าลอบทำร้ายของกลุ่มโจร และรอเดินทางไปตรวจสอบในตอนเช้า กระทั่งเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินชุดลาดตระเวนรับแจ้งเข้าไปตรวจสอบก่อน ขณะนำกำลังมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือระเบิดขึ้นแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4
กล่าวถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครูที่จะเปิดทำการเรียนการสอนในวันที่ 8 ม.ค. นี้ หลังหยุดทำการเรียนการสอนว่า ขณะนี้หน่วยกำลังในพื้นที่ได้เตรียมรักษาความปลอดภัยให้กับคณะครูอย่างเต็มที่ โดยมีการประสานงานกับคณะครูอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ครูเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นในมาตรการดังกล่าว สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยนั้น แต่ละพื้นที่จะมีวิธีการดำเนินงานแตกต่างกัน
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละพื้นที่และความต้องการของคณะครู ส่วนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่นั้น ประชาชนถือเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา หากทราบเบาะแสการก่อเหตุความไม่สงบของกลุ่มคนร้ายขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยเร็วเพื่อ ป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึง
เหตุการณ์ที่มีชาวบ้านเป็นผู้หญิงและเด็กชุมนุมประท้วงกดดันเจ้าหน้าที่ให้ ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่จับกุมในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ว่า ในเรื่องนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างแน่นอน หลังพบว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอยู่ เบื้องหลังการสร้างสถานการณ์โดยเป็นคนนอกพื้นที่ เข้ามาชุมนุมกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ จับกุมกลุ่มคนร้าย จากการสอบถามญาติๆ ของผู้ถูกจับกุมก็ยืนยันว่าไม่รู้จักกับกลุ่มที่มาชุมนุม แม้จะมีการปิดบังใบหน้า แต่เจ้าหน้าที่ก็รู้ตัวแล้วว่าเป็นใครบ้าง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเพื่อดำเนินการจับกุม
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ