โจรใจกล้าบุกคฤหาสน์ ยกเซฟฉก 5 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.30 น. วานนี้ (7 ม.ค.)


ร.ต.ต.พงษ์ศิลป์ เจริญพิทักษ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอุทัยธานี รับแจ้งจากนายอานนท์ สุราฤทธิ์ อายุ 50 ปี เจ้าของกิจการโรงสีข้าวมั่นคงธัญญา ตั้งอยู่ เลขที่ 37/4 หมู่ 6 บ้านหนองแก ต.หนองแก

ว่า มีคนร้ายงัดบ้านเข้าไปยกตู้เซฟภายในบ้านที่ตั้งอยู่บริเวณโรงสี


จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี
พ.ต.ท.กรรณ์ ยาวิชัย พนักงานสอบสวน (สบ 2)
พ.ต.ต. ประกาศิต โพธิ์ถนอม สวป.
และ ร.ต.อ.สุเทพ ทองเกล็ด นักวิทยาศาสตร์ (สบ 1) กองวิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่


สร้างอยู่รั้วเดียวกับโรงสี เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ติดกับถนนสายหนองแก-บ้านหนองเต่า ตรวจสอบบริเวณช่องระบายอากาศห้องน้ำชั้นบนถูกงัดเปิดอ้า

ส่วนตู้เซฟขนาดใหญ่

หนักประมาณ 200 กก. ที่วางอยู่ในห้องโถงหน้าห้องนอนชั้นบน ถูกคนร้ายยกขโมยไป

ภายในตู้เซฟมีทรัพย์สินของมีค่า ประกอบด้วย


เครื่องเพชร ทองรูปพรรณต่างๆหลายรายการ น้ำหนักรวมกว่า 100 บาท
และเข็มขัดทองน้ำหนัก 40 บาท 1 เส้น
นอกจากนี้ ยังมีโทรศัพท์มือถือและกล้องวีดิโออีก 2 ตัว วางไว้บนตู้เซฟหายไปด้วย

รวมทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 พบรองเท้าผ้าใบของคนร้ายถอดทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า 1 คู่ ที่ขั้นบันไดจากชั้น 2 ลงมา พบพื้นบันไดมีรอยคนร้ายลากตู้เซฟครูดจนพื้นถลอก

ส่วนที่ประตูด้านหลังชั้นล่างเปิดอ้า


โดยมีกุญแจเสียบคาแม่กุญแจอยู่บริเวณรั้วลวดหนามติดกับถนนเข้าซอยด้านข้างห่างจากตัวบ้านประมาณ 50 เมตร

พบรอยลวดหนามถูกตัดขาดเป็นรูโหว่ 3 เส้น
คนร้ายยังทิ้งรองเท้าหนัง สีน้ำตาล 1 คู่
ไขควง 1 อัน
กระเป๋าสะพายผ้าร่มสีดำ 1 ใบ
ภายในมีประแจเลื่อน คีมล็อก
คีมตัดเหล็ก
ไขควงแบน
และรองเท้าแตะหนังสีขาว 1 คู่

นอกจากนี้

ยังพบกระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ
ภายในมีซองปืนพกสั้นสีดำ 1 ซอง
พระเครื่อง 7 องค์
มีทั้งพระสมเด็จ 3 องค์
กับรูปหล่อหลวงพ่อเดิม 1 องค์
ที่เหลือเป็นเหรียญพระเกจิอาจารย์ ชื่อดังใน จ.อุทัยธานี

ทั้งหมดคาดว่าเป็นของคนร้ายที่ทำตกเอาไว้ระหว่างช่วยกันยกตู้เซฟหลบหนี จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายอานนท์ สุราฤทธิ์ เจ้าของบ้านและเจ้าของโรงสีข้าวให้การว่า


เปิดกิจการโรงสีข้าว โดยรับซื้อข้าวเปลือกจากที่ต่างๆมาสีข้าวสารจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ มีคนงานประมาณ 30 คน ตนกับภรรยาคือนางวาสนา สุราฤทธ์ อายุ 41 ปี นอนในห้องนอนชั้นบน

ส่วนลูกชายวัย 18 ปีนอนอยู่อีกห้อง


ในขณะที่ห้องทำงานด้านล่างมีเสมียนชื่อนางสุวิมล หรือส้ม สีใสสงค์ อายุ 21 ปี นอนอยู่ ก่อนเกิดเหตุไม่ได้ยินอะไรเลย หลังตื่นขึ้นมาช่วงตี 4 พบว่าตู้เซฟหายไป

ส่วนชั้นล่างซึ่งเป็นตู้แขวนพวงกุญแจห้องต่างๆ

พบว่ามีกุญแจหายไป 3 พวง ทั้งนี้ นายอานนท์ยังกล่าวแบบอารมณ์เสียว่า หลังเกิดเหตุตนรีบเดินไปแจ้งตำรวจที่ป้อมยามใกล้หน้าบ้านที่ตนสร้างไว้ให้ แต่ปรากฏว่าไม่มีตำรวจอยู่เลยสักคน

ต่อมา พ.ต.ต.ประกาศิต โพธิ์ถนอม สวป.สภ.อ.เมืองอุทัยธานี


ได้กระจายกำลังออกติดตามคนร้าย กระทั่งพบตู้เซฟดังกล่าวถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณเชิงเขาเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า (วังรอ) หมู่ 4 ต.หนองเต่า อ.เมืองอุทัยธานี ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม.

คนร้ายได้ทุบตู้เซฟจนบุบบู้บี้และงัดเอาทรัพย์สินภายในจนเกลี้ยง

จึงประสานไปยัง พ.ต.ต.ภพ มัลเชษฐ์ สว.หน.กองวิทยาการตำรวจจังหวัดอุทัยธานี มาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

ด้าน พล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า


ในเบื้องต้นได้สั่งให้ตำรวจวิทยาการเก็บรายละเอียดลายนิ้วมือ รอยเท้าและหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ พร้อมตรวจสอบประวัติคนงานที่ยังทำงานและที่ถูกไล่ออกไปแล้ว เนื่องจากแนวทางการสอบสวนชั้นต้น

เชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 5 คน และ 1 ในคนร้าย


น่าจะเป็นคนที่เข้านอกออกในภายในบ้าน รู้ที่เก็บรักษากุญแจและของมีค่าในที่ต่างๆได้ดี จากนั้นคนร้ายได้ปีนเข้าทางช่องระบายห้องน้ำชั้นบนเข้าไปเปิดประตูให้แก๊งคนร้ายที่เหลือช่วยกันยกตู้เซฟนำไปใส่รถยนต์เผ่นหนี

ขณะนี้ได้เรียกตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด ร่วมกับ สภ.อ.เมืองอุทัยธานี ประชุมไล่ล่าคนร้าย ส่วนตำรวจที่ไม่อยู่ในตู้ยามก็ให้ผู้บังคับบัญชาสอบสวนลงโทษทางวินัยด้วย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์