อัดแน่นเต็มกระบะท้าย ลำเลียงขนไปส่งให้แก่นายทุน พร้อมเครื่องมือจับสุนัข พบประทัดกลมคล้ายระเบิดปิงปอง
วันนี้ (19 ก.ย.54 ) เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีรถยนต์น่าสงสัยคาดว่าจะบรรทุกสุนัขเข้ามาในเขตตำบลด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกไปดักซุ่มที่บริเวณบ้านด่านม่วงคำ สายบ้านดงน้อย – อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ต่อมาเจ้าหน้าที่ เห็นรถยนต์กระบะที่ต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านด่านม่วงคำ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามอย่างกระชัดชิด และระหว่างนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆและมีกลุ่มควันหนาทึบ จึงได้ชะรอความเร็วลงเกรงว่าจะเกิดอันตราย ต่อมาสามารถตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน บน 7277 พิษณุโลก
ตรวจค้นภายในรถยนต์พบผู้ต้องหา 1 คน นั่งอยู่ด้านหลังของคนขับ ส่วนคนขับได้วิ่งหลบหนีไปได้ เมื่อเปิดผ้าคลุมกระบะท้ายรถพบสุนัขที่อัดกันแน่นมีเสียงร้องครวญคราง จำนวน 37 ตัว และภายในรถยังพบอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร 2 เครื่อง ลูกประทัดกลมระเบิดปิงปอง จำนวน 4 ลูก รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือจับสุนัข
จากนั้นได้นำผู้ต้องหา คือนายสมาน แดงมี อายุ 36 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 3 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ไปสอบสวนที่ สภ.โคกศรีสุพรรณ โดยให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อน คือ นายธีระพันธ์ พุ่มเพียร และนายสมโภช ภูมิคอมสาร ทั้ง 2 คนเป็นชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ที่หลบหนีการจับกุม และบอกด้วยว่านายธีระพันธ์ พุ่มเพียร ผู้ชักชวนให้มาขนสุนัขเพื่อนำไปส่งให้แก่นายทุน ( ผู้ประกอบการที่บ้านท่าแร่) ซึ่งมีครอบครัวอยู่บ้านท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร แต่ยังปฏิเสธการรับค่าจ้างขน จากนั้นจึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายสมโภช ศุขวัฒนา นายอำเภอโคกศรีสุพรรณ กล่าวว่า สุนัขทั้งหมดที่ตรวจยึดได้คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่งตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลเรียบร้อยถึงจะดำเนินการต่อ ขณะนี้ต้องพักสุนัขรอไว้ที่นี่ก่อนเป็นการชั่วคราว และให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์คอยดูแลรักษาเกี่ยวกับโรคสุนัข ขณะที่นายวิสุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนายการ เปิดเผยว่า สุนัขที่ถูกกักขังอยู่เป็นเวลานานเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เพราะอยู่กันอย่างแออัดอากาศไม่เพียงพอ เบื้องต้นได้นำพัดลมขนาดใหญ่เพื่อระบายอากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนการดูแลรักษาคงต้องตรวจดูสุนัขทุกตัวว่าติดเชื้อมีโรคหรือไม่.