จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังนำหมายค้นบุกตรวจอาคาร-โกดัง ย่านสุทธิสารที่ “ชูวิทย์ “แฉว่าเป็นบ่อนพนัน
จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ส.ส.ฝ่ายค้าน ออกมาแฉคลิปบ่อนการพนัน พร้อมระบุว่าลักลอบเปิดในพื้นที่โรงพัก ส. ในเขตนครบาล ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ และนำคลิปมามอบให้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ (26 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิมล เปาอินทร์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 7) พร้อมด้วยคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร เพื่อร่วมประชุม ก่อนเดินทางไปตรวจค้นสถานที่ที่คาดว่าปรากฏในคลิป
พล.ต.อ.สถาพร เปิดเผยว่า ในวันนี้จะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตามที่นายชูวิทย์ ได้นำคลิปหลักฐานมามอบให้ เบื้องต้นสั่งการให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขอหมายค้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะยังไม่มีการเคลื่อนย้ายของกลางหนีไปไหน แต่เมื่อไปตรวจสอบแล้วจะพบหรือไม่ต้องไปดูกัน ทั้งนี้หลังจากเข้าตรวจค้นแล้วจะต้องเชิญเจ้าของสถานที่มาให้ปากคำ
จเร ตร.บุกโกดังที่ชูวิทย์แฉเป็นบ่อน
พร้อมทั้งสอบสวนวิน จยย.ที่นายชูวิทย์ ให้การว่าวิน จยย.ไปส่งถูกทุกคัน และนำภาพในที่เกิดเหตุมาเปรียบเทียบกับภาพในคลิปของนายชูวิทย์ด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่มีการจับกุมหรือพบของกลาง แต่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง ก็จะต้องเอาผิดกับท้องที่ ส่วนกรณีของท้องที่ สน.โชคชัย ตนจะทำรายงานสรุปให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ให้ทราบว่ามีการกล่าวพาดพิงไปถึงอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบในภายหลัง
ต่อมา พล.ต.อ.สถาพร พร้อมด้วยกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้นำหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือ ที่109/2554 ลงวันที่ 26 ส.ค. 2554 เข้าตรวจค้นอาคารชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ ภายในซอยรัชดา 14-16 หลังโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง แขวงและเขตห้วยขวาง จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นลักษณะรูปตัวแอล มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษ มีรั้วรอบขอบชิด แต่ยังสร้างไม่เสร็จ ด้านหลังเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่เชื่อมกับทางเข้าโกดัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นมาถึงที่เกิดเหตุ และขอเข้าไปตรวจค้น มีชาย 1 คนออกมารับหมายและเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป แต่ไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน โดยนำแม่กุญแจมาล็อคเอาไว้ พร้อมกับให้ชายฉกรรจ์ 4 คน คอยเฝ้าที่ประตูด้านหน้า
จากการสอบสวนนางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวให้การว่า ตนขายของมากว่า 4 ปีแล้ว เพิ่งจะมาขายภายในโกดังแห่งนี้ได้ประมาณประมาณ 2 เดือนเศษ ส่วนใหญ่คนงานเป็นคนเขมร หลังจากที่โกดังสร้างเสร็จ ก็เห็นผู้คนเข้าออกจำนวนมาก และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง คนที่เข้ามามีตั้งแต่วัยรุ่น นักศึกษา คนวัยทำงาน และชาวต่างชาติ
โดยจะขับรถยนต์มาและนำรถไปจอดที่ลานจอดด้านหลัง บาง คนก็นั่งรถรับจ้างมา ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปด้านใน พบว่ามีห้องหลายห้อง มีการเล่นไพ่ และมีคนคอยดูแลอย่างแน่นหนา แต่ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย หรืออาจจะมาในช่วงที่ตนไม่ได้มาขายของ ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวก็ปิดไปเลย ไม่มีคนเข้ามาเหมือนเมื่อก่อน.