สรุปเหตุ บึ้ม 8 จุดถล่มกรุงส่งท้ายปีเก่าดับ 2 เจ็บอื้อ

สรุปเหตุ "บึ้ม" 8 จุดถล่มกรุงส่งท้ายปีเก่าดับ 2 เจ็บอื้อ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2550 06:26 น.

สรุป! มือมืดก่อเหตุวางระเบิดบึ้มถล่มกรุงคืนเดียวพร้อมกัน 8 จุด ตามสถานที่ฝูงชน ขณะออกเริงรื่นนับถอยหลังปีใหม่ ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 2 ราย เจ็บอีกกว่า 30 ฝรั่งโชคร้ายถูกระเบิดขาขาด ขณะนั่งกินซีฟู๊ด ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิล์ด เชื่อกลุ่มหวังผลการเมือง เลือกวันสิ้นปีก่อเหตุ สร้างความตื่นกลัวให้ประชาชน

เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในกทม.และปริมณฑล

ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ของเย็นวันส่งท้ายปีเก่า (31 ธ.ค.49) ไปจนถึงเที่ยงคืนขณะนับถอยหลังเพื่อต้อนรับปีใหม่ (1 ม.ค.50) ถึง 8 จุดในเวลาไล่เลี่ยกันภายในคืนเดียว ได้แก่

จุดที่ 1 ระเบิดเกิดขึ้นภายในถังขยะบริเวณป้ายรถเมล์ หน้าภัตคาร พงษ์หลี ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย ในจำนวนนี้ มีบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ชื่อนายสงกานต์ กาญจนะ อายุ 36 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ

จุดที่ 2 บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเสือ กลางตลาดคลองเตย พื้นที่ สน.ท่าเรือ โดยคนร้ายวางระเบิด ในถังขยะมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เสียชีวิต 1 รายคือนายสุวิชัย นาคเอี่ยม คนเฝ้าศาลเจ้าพ่อเสือ

จุดที่ 3 บริเวณข้างป้อมตำรวจ แยกสะพานควาย มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย

จุดที่ 4 บริเวณข้างป้อมตำรวจ แยกสุขุมวิท 62 พื้นที่ สน.พระโขนง ไม่มีผู้บาดเจ็บ

จุดที่ 5 ข้างป้อม ตำรวจ สี่แยกแคลาย รอยต่อ กทม.และนนทบุรี ไม่มีผู้บาดเจ็บ

จุดที่ 6 บริเวณลานจอดรถจยย. ห้างซีคอน สแคว พื้นที่ สน.ประเวศ ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ต่อมาจุดที่ 7 เวลาประมาณ 24.00 น. ขณะนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่ เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณตู้โทรศัพท์หน้าห้างเกษร พลาซ่า ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิล์ด บริเวณแยกราชประสงค์

และจุดที่ 8 ห่างกันประมาณ 3 นาที ที่บริเวณท่าเรือประตูน้ำ ติดคลองแสนแสบ

โดยเหตุระเบิด 2 จุดที่นี่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย เป็นชาวต่างชาติ 6 รายและคนไทย 2 ราย ประกอบด้วย 1. Mr. Jovan Stoganovic อายุ 34 ปี ชาวเซอร์เบีย 2.Miss.Vera Sekulic อายุ 28 ปี ชาวเซอร์เบีย 3. Mrs. Linga Fountain อายุ 55 ปี ชาวอเมริกา 4.Miss. Mariann Kovacs อายุ 35 ปี ชาวฮังการี่ 5. Mr. Alister Graham อายุ 47 ปี ชาวอังกฤษ 6. Mr.Paul Heewit อายุ 55 ปี ชาวอังกฤษ 7. นายดวงจันทร์ โลนุช อายุ 38 ปี และ8. นายสมพงษ์ การีรัตน์ อายุ 41 ปี โดยชาวต่างชาติหญิงรายหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บสาหัสถึงขาขาด ขณะนั่งกินซีฟู๊ดฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลเวิล์ด

นอกจากนี้ยังมีรายงานพบวัตถุต้องสงสัยอีกหลายจุด

เช่นภายในห้างบิ๊กซี สาขาราชประสงต์ และพบวัตถุต้องสงสัย ที่บริเวณนานาสแคว บริเวณถนนข้าวสาร และสวนลุมไนท์ บาซ่า แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด

ภายหลังเหตุระเบิดครั้งใหญ่ป่วนกทม. ครั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับรายงานจึงได้เดินทางเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทันที พร้อมกับเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ร่วมกับแม่ทัพภาค และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ทันที โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อว่ากลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติที่ก่อเหตุครั้งนี้ ได้มีการเตรียมการณ์มาล่วงหน้าแล้ว จึงได้ก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน เลือกกระทำการช่วงปีใหม่ โดยในวันนี้ (1 ม.ค.50) เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีจะประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกครั้งเพื่อสรุปความคืบหน้าและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

นอกจากนี้ทางด้านปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดประชุม

เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดขึ้น หลังเกิดระเบิดขึ้นทั่วกรุงครั้งนี้

สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ รวมจำนวน 32 คน เสียชีวิตแล้ว 2 คน ในจำนวนนี้มีบางส่วนกลับบ้านได้แล้ว แบ่งเป็นเข้ารักษาที่รพ.ราชวิถี 17 คน เสียชีวิตที่นี่ 1 คน คือนายสงกานต์ กาญจนะ ,ร.พ.ตำรวจ มี 8 คน เป็นต่างชาติ 6 ราย และคนไทย 2 คน ,ร.พ.พระมงกุฏ 3 คน, ร.พ.รามาธิบดี 2 คน, ร.พ.เปาโล 1 คน และรพ.จุฬาฯ 1 คน เสียชีวิตคือนายสุวิชา นาคเอี่ยม

เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่ก่อความรุนแรงภาคใต้ เพราะกรณีใต้กลุ่มก่อการร้ายมีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าต้องการแบ่งแยกดินแดง และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้นั้น เจ้าหน้าที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวด้านการข่าวได้มากกว่านี้ ทั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่หวังดี ต้องการสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนโดยเลือกวันที่มีการจัดงานรื่นเริงสังสรรค์เป็นวันก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายรัฐบาลเองมองว่า กลุ่มคนร้ายอาจจะเป็นกลุ่มที่หวังผลทางการเมือง พวกที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ

โดยระเบิดน่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่เลือกวางตามถังขยะต่างๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครอยู่เบื้องหลังต้องขอประนามการกระทำที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อประชาชนและประเทศชาติ

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติ ต้องสงสัย หรือพบเบาะแสต่างๆ เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ สามารถโทรศัพท์แจ้งสิ่งผิดปกติหรือเบาะแสได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก หมายเลข 02-2977648-9 ตลอด 24 ชั่วโมง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์