“ชูวิทย์”บุกพบ กก.สืบข้อเท็จจริงบ่อน ส่งหลักฐานคลิป 2 โกดังเช่าเก็บอุปกรณ์บ่อน แฉอีกคาสิโนซอยโชคชัย 4(มีคลิป)
เมื่อเวลา 19.20 น. วันนี้ (25 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ส.ส.ฝ่ายค้าน เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีคลิปบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ในพื้นที่นครบาล โดยนายชูวิทย์ได้เปิดคลิป 2 คลิป อันแรกเป็นการเล่นพนันในบ่อน ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่เปิดในสภาฯ ส่วนคลิปที่ 2 เป็นคลิปภาพมุมสูงแสดงตำแหน่งบ่อนตามที่อ้าง และโกดังเก็บของที่อยู่ห่างไปเพียง 10 เมตร ซึ่งนายชูวิทย์ อ้างว่าเป็นโกดังที่มีการขนย้ายอุปกรณ์ในบ่อนมาเก็บไว้ เพื่ออำพรางหลักฐาน
นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังนำ หนังสือพิมพ์สปอร์ตพูล ฉบับวันเสาร์ที่ 20 ส.ค. 54 ที่ปรากฏในคลิปฉบับแรก
เพื่อยืนยันว่าคลิปดังกล่าวถ่ายขึ้นในช่วงดังกล่าวจริง มาให้คณะกรรมการด้วย ด้าน พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจ สน.สุทธิสาร เข้าไปรักษาสถานที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงเพื่อเก็บหลักฐานแล้ว ก่อนที่พรุ่งนี้จะขออนุมัติหมายค้นจากศาล จากนั้นเวลา 09.30 น.ตนและคณะจะเข้าค้น พร้อมทั้งตรวจสอบพื้นที่ด้วยตนเอง โดยคณะกรรมการจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะตนเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบตามจริง
เมื่อถามว่า กรณีที่ไปตรวจสอบแล้วพบแต่อุปกรณ์การเล่นในโกดัง ไม่มีการเล่นอยู่ในปัจจุบัน จะเอาผิดฐานเปิดบ่อนการพนันได้หรือไม่
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ถ้าพยานหลักฐานไม่พบการเล่นก็เอาผิด ณ ตอนนั้นไม่ได้ แต่จากคลิปหลักฐานที่นายชูวิทย์นำมาให้ ก็ชัดเจนแล้วว่ามีการเล่นการพนัน เป็นหลักฐานที่พอจะเชื่อได้ว่า มีการเปิดบ่อนการพนันจริง พล.ต.อ.สถาพร กล่าวด้วยว่า ต้องตรวจสอบทุกประเด็นตามที่เป็นข่าว รวมถึงกรณีที่กล่าวอ้างว่ามี นายพล 2 คน เกี่ยวข้องกับบ่อนดังกล่าว ขณะที่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ตนมาให้ข้อมูลในวันนี้เพราะมั่นใจในพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. รวมถึงกรรมการว่าจะทำความจริงให้กระจ่าง
นายชูวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ยังมีบ่อนอีกแห่ง ในพื้นที่ สน.โชคชัย เป็นอาคาร 6 ชั้น ที่เปิดเป็นคาสิโนโดยเฉพาะ อยู่สุดซอยโชคชัย 4
อยากให้คณะกรรมการชุดนี้ตรวจสอบด้วย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นเข้าไปดูที่เกิดเหตุเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่จะไปจับไปตรวจค้นเขาก็จะมีความผิดไปด้วย เขาก็คงไม่ดำเนินการจับกุม ที่ออกมาเปิดเผยครั้งนี้ก็ไม่ได้กลัวเป็นการทำตามหน้าที่และตำรวจก็ต้องทำตามหน้าที่ของตำรวจด้วย.