บุตรชายของผู้นำลิเบียถูกจับ

นายลูอิส โมเรโน่ โอแคมโป้ อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลลับมาว่า นายเซอิฟ อัล อิสลาม บุตรชายของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบียที่ไอซีซี  ออกหมายจับในข้อหากระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ถูกควบคุมตัวอยู่ สอดคล้องกับที่นายอับเดล จาลิล ประธานสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติของฝ่ายต่อต้าน ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อัลจาซีร่า จากเมืองเบงกาซีว่า นายซาอีฟ ถูกจับกุมแล้ว และกำลังถูกนำตัวไปควบคุมไว้ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา จนกว่าจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 
   
ก่อนที่จะเกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจของพันเอกกัดดาฟี
 
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นายเซอีฟทำตัวเปรียบเสมือนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนบิดามาตลอด และงเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการสื่อสารกับโลกตะวันตก ด้วยการสวมสูท ผูกเน็คไทและพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเมื่อวันเสาร์ นายเซอีฟเพิ่งปรากฎตัวทางโทรทัศน์ของทางการลิเบีย และยืนยันว่า พวกเขาจะไม่ยอมจำนนให้กับฝ่ายต่อต้าน

ด้านสำนักข่าว CNN รายงานว่า บุตรชายอีกคนหนึ่งของผู้นำลิเบีย คือ นายซาอัดดี ก็ถูกฝ่ายค้านควบคุมตัวเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการตอบโต้ใด ๆ จากฝ่ายรัฐบาล และไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันความจริงด้วยเช่นกัน 
         
ขณะที่กองกำลังของฝ่ายต่อต้าน ได้บุกเข้าไปถึงจตุรัสกรีน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ใจกลางกรุงทริโปลีแล้ว ภาพจากสถานีโทรทัศน์ สกาย นิวส์

ได้แสดงให้เห็นฝูงชนส่งเสียงแสดงความยินดี ชายหนุ่มหลายคน ส่วนใหญ่โบกธงชาติสีแดง ดำและเขียว ซึ่งเป็นธงชาติแบบเก่า ที่ฝ่ายต่อต้านนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐบาลปัจจุบัน พร้อมกับร้องตะโกนและเต้นรำมีบางคนยืนปืนขึ้นฟ้าเฉลิมฉลองด้วย

        
ด้านสำนักข่าว BBC รายงานว่าเป็นที่คาดว่า พันเอกกัดดาฟียังอยู่ในกรุงตริโปลี พร้อมกับกองกำลังติดอาวุธที่ภักดีต่อเขาหลายพันคน แม้มีจำนวนไม่น้อยที่ยอมจำนนต่อฝ่ายต่อต้านแล้วก็ตาม

       
ส่วนนายมุสซา อิบราฮิม รัฐมนตรีข่าวสารของลิเบีย เปิดเผยว่า

การสู้รบในกรุงตริโปลีตั้งแต่เวลาเที่ยงวันของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 17.00 น. ตามเวลาไทยวันเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,300 ราย และบาดเจ็บราว 5,000 คน จนโรงพยาบาลหลายแห่งไม่อาจรองรับผู้บาดเจ็บได้