"ใต้รุนแรงหนัก ยิงแล้วเผา"
ใกล้วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่สถานการณ์ ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทวีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหลังจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่พร้อมกับนโยบายสมานฉันท์ กลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนได้ใจ ออกอาละวาดไล่เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธในพื้นที่แทบจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ต้องอพยพหนีตายกันอลหม่าน ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐก็หมดปัญญาควบคุมสถานการณ์ แถมยังตกเป็นลูกไล่ให้โจรชั่วลอบถล่มอยู่ฝ่ายเดียว เพราะปัญหาการขาดเอกภาพในการทำงานและกลัวปัญหาด้านการเมือง เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ส่งผลให้โจรชั่วกำเริบเสิบสานประกาศปักธงรัฐปัตตานีในหลายพื้นที่นั้น
สำหรับเหตุร้ายรายวัน เริ่มที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 08.45 น. วานนี้ (29 ธ.ค.) ร.ต.ท.ทัศพล สุวรรณบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายสังหารครู 2 รายแล้วจุดไฟเผา ที่บ้านบาโด หมู่ 2 ต.ยุโป จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก. นายนฤพล แหละตี นอภ. เมืองยะลา และหน่วยกู้ภัยแม่ทับทิมรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้าน พบเพลิงกำลังลุกไหม้ รถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 7254 ยะลา ซึ่งพุ่งชนรั้วบ้านเลขที่ 44/3 หมู่ 3 ต.ยุโป เจ้าหน้าที่รีบฉีดน้ำดับเพลิงอย่างโกลาหล ปรากฏว่าไฟไหม้รถเสีย หายทั้งคัน ห่างไปทางด้านท้ายรถราว 80 เมตร พบศพชาย 2 ราย นอนหงายอยู่บนถนน และมีไฟกำลังลุกไหม้ร่างเป็นที่น่าสยดสยอง กลิ่นเนื้อมนุษย์ไหม้ไฟเหม็นคละคลุ้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.11 ยะลา ต้องใช้น้ำยาเคมีดับเพลิงฉีดเข้าใส่จนไฟมอดลง ปรากฏว่าทั้ง 2 ศพถูกไฟไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกแทบจำเค้าเดิมไม่ได้
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตรายแรกคือ นายจำนง ชูพัฒนพงค์ อายุ 59 ปี ผอ.ร.ร.บ้านบาโด สภาพศพถูกยิงด้วยปืน 9 มม. และปืน .380 ที่ศีรษะและสีข้างขวาหลายนัด โดยศพนายจำนงที่บริเวณศีรษะถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ กะโหลกขาวโพลน ส่วนรายที่ 2 ชื่อ นายมนูญ ศรแก้ว อายุ 53 ปี ผช.ผอ.โรงเรียนเดียวกัน ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะและหน้าอกด้านขวาหลายนัดเช่นกัน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนทั้ง 2 ขนาดตกอยู่ เกลื่อนถนน เก็บรวบรวมไว้ได้ 16 ปลอก และกระสุนปืน 9 มม. ยังไม่ได้ยิงอีก 2 นัด