แบล็คเบอร์รีลั่นพร้อมช่วยตำรวจอังกฤษสืบต้นตอปลุกระดมเผา-ปล้นลอนดอน

เว็บไซต์เดอะ การ์เดียนรายงานว่า บ.รีเสิร์ช อิน โมชัน (อาร์ไอเอ็ม) ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟน"แบล็คเบอร์รี"

 เปิดเผยคืนวานนี้ (8 ส.ค.)ว่า จะให้ความร่วมมือกับตำรวจสอบสวนข้ออ้างที่ว่าบริการส่งข้อความของแบล็คเบอร์รี (แบล็คเบอร์รี เมสเซนเจอร์) หรือ"บีบีเอ็ม" ถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมให้คนก่อจลาจลในกรุงลอนดอนเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ด้านสำนักงานสก็อตแลนด์ยาร์ด ประกาศที่จะตามล่าและจับกุมผู้ประท้วงที่โพสต์ข้อความแสดง"การยั่วยุและไม่ถูกต้อง" ในบริการส่งข้อความของแบล็คเบอร์รี และในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊คและทวิตเตอร์

 

นายแพทริค สเปนซ์ กรรมการผู้จัดการด้านการตลาดภูมิภาคของอาร์ไอเอ็ม กล่าวยืนยันว่า ได้ติดต่อกับตำรวจแล้วเพื่อให้ความช่วยเหลือเรื่องการสอบสวน อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ดังกล่าว ยังก่อให้เกิดความวิตกต่อผู้ใช้บางรายว่า ข้อความส่วนตัวของตนอาจต้องถูกส่งต่อให้ตำรวจ

 

เขากล่าวว่า บริษัทรู้สึกกังวลต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และบริษัทได้ให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายอังกฤษเรื่องการดักฟังการสื่อสารและการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกระทรวงมหาดไทย

 


บริการส่งข้อความของแบล็คเบอร์รี กลายเป็นหนึ่งในช่องทางในการใช้วางแผนก่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของลอนดอน

 นับตั้งแต่ค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ส.ค.) ซึ่งแตกต่างจากการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือปกติ หรือเครือข่ายทวิตเตอร์ ที่บีบีเอ็ม จะเป็นบริการ"ฟรี" และข้อความเกือบทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนให้เป็นรหัส เมื่อมันถูกส่งออกจากเครื่องของผู้ส่ง ซึ่งหมายความว่า ข้อความทั้งหลายจะสามารถสามารถถูกตรวจสอบจากทางการได้เลย


ทั้งนี้ อาร์ไอเอ็ม สามารถส่งผ่านข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดให้แก่ตำรวจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

หากมีการสงสัยว่าผู้ใช้รายใดกำลังดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี อาจมีแนวโน้มที่ว่า อาร์ไอเอ็ม อาจต่อต้านการกระทำดังกล่าว และข้อความที่แสดงเนื้อหาเพื่อยั่วยุของผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนให้เป็นรหัส แม้ว่าก่อนหน้านี้อาร์ไอเอ็มเคยกล่าวยืนยันว่า บริษัทจะไม่เข้าไปก่าวก่ายการส่งข้อมูลใดๆระหว่างลูกค้าก็ตาม

 

แม้ว่าเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์เป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญในการปลุกระดมการจลาจลในกรุงลอนดอนหลานครั้งก่อนหน้านี้ แต่เหตุการณ์การจลาจลในย่านท็อตแนม ถือเป็นครั้งแรกในอังกฤษ ที่บริการแบล็คเบอร์รี เมสเซนเจอร์ ส่งอิทธิพลมากที่สุด

 

"ข้อความ"ระหว่างผู้ใช้คนหนึ่งไปยังผู้ใช้คนอื่นๆ ถูกนำไปเผยแพร่ซ้ำและส่งต่อทั้งในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ หลักฐานที่บ่งชี้ว่า ผู้ก่อความวุ่นวายกำลังวางแผนที่จะโจมตีสถานที่ใด แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยที่ตำรวจตามไม่ทัน

 

ข้อความบีบีเอ็มชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีการโพสต์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา กล่าวกระตุ้นให้ผู้ประท้วงไปปล้นสะดมในย่านสแตรทฟอร์ด ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน

 

"ถ้าอยากหาเงิน เรากำลังจะไปย่านลอนดอนตะวันออกคืนนี้" "เราไม่สนใจว่าพวกคุณจะมาจากไหน เราขอเชิญพวกคุณเป็นการส่วนตัวให้มาถล่มที่นี่ ตำรวจทำเรื่องชั่วๆมานานเกินไป และตามสัตย์จริง เราไม่รู้ว่าทำไมเราจึงปล่อยเรื่องนี้ให้คาราคาซังมานาน เราต้องการผู้กระหาย(การล้างแค้น)อย่างน้อย 200 คน เราไม่ได้ถังแตก แต่ใครล่ะจะไม่ชอบของฟรี ไม่ต้องกลัวหากว่าตำรวจบุกมา เพราะพวกเราจะไล่ให้พ้นทาง เพราะถ้าดูข่าว พวกมันไม่ได้ความ มาเจอกันตอนหนึ่งทุ่มที่สแตรทฟอร์ด แล้วพวกเราจะรวยกัน"

 

ขณะที่อีกข้อความหนึ่งกล่าวกระตุ้นให้ผู้ประท้วงรวมเป็นหนึ่งเดียวและบุกย่านคิลเบิร์น ของกรุงลอนดอน และเมื่อวันอาทิตย์ ผู้ใช้แบล็คเบอร์รี ได้รับข้อความที่เชิญชวนให้ไปยังอ็อกซ์ฟอร์ด เซอร์คัส เพื่อ"การก่อการร้ายและความหายนะที่แท้จริง" และเพื่อ"ของฟรี"

 

มื่อสอบถามนายสตีฟ คาวานาห์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการส่งข้อความดังกล่าวจะถูกจับกุมหรือไม่ เขากล่าวยืนยันว่าการสืบสวนถึงเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็น

 

ส่วนในเฟซบุ๊ค ซึ่งมีการเปิดเพจเพื่อแสดงการไว้อาลัยแก่นายมาร์ค ดักแกน ชาวท็อตแนม ผู้ถูกสังหารเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้จุดประกายให้มีการก่อจลาจลครั้งนี้ แสดงความไม่เกี่ยวข้องต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ มีเข้ามากด"ไลค์"แล้วมากกว่า 18,000 ราย ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้ใช้เข้ามาแบ่งปันรูปภาพหรือคลิปวิดีโอของเหตุการวางเพลิงรถบัสสองชั้นและรถตำรวจ เพื่อส่งข้อความออกไปว่าเหตุใดเรื่องดังกล่าวจึงนำพาไปสู่การก่อการจลาจลครั้งใหญ่

 

ขณะที่วานนี้ เพจดังกล่าวดูมีท่าทีประนีประนอมลง หลังจากที่ความรุนแรงกระจายไปทั่วเมืองหลวง หนึ่งในข้อความโดยผู้ดูแลระบุว่า "หากว่าทุกคนยังสนใจหน้าเพจนี้ พวกเขาจะต้องหยุดการเผาและปล้นสะดม บุคคลใดที่สนับสนุนให้มีการกระทำเช่นนั้น คุณต้องโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ครอบครัวของมาร์คไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้แน่"

 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์