รวบหนุ่มเยอรมันแสบทำแบงก์ปลอม

รวบหนุ่มเยอรมันแสบทำแบงก์ปลอม ใช้วิธีง่ายๆ แค่นำธนบัตรมาสแกนแล้วปริ้นออกมาใช้ แต่ทำไม่แนบเนียนโดนคนขับตุ๊กตุ๊กรับจ้างจับได้

เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (8 ส.ค.) พ.ต.ต.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับพวกได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายซีมอนด์ โฟส อายุ 30 ปี สัญชาติเยอรมัน พร้อมของกลางธนบัตรไทยฉบับ 500 บาทปลอม จำนวน 15 ฉบับ ธนบัตรไทยฉบับละ 100 บาทปลอม จำนวน 3 ฉบับ เครื่องปริ๊นเตอร์ 1 เครื่อง ไดร์เป่าผม 1 เครื่อง กระดาษเอ 4 มีภาพธนบัตร จำนวน 6 แผ่น ฮาร์ดดิสคอมพิวเตอร์ 1 อัน

ตั้งข้อกล่าวหาว่า ทำปลอมธนบัตรและมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม ตามมาตรา 240 ป.อาญา

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา นายประชุม ลิยาน ซึ่งเป็นคนขับรถรับสามล้อรับจ้าง เดินทางมาแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เวลาประมาณ 23.45 น. ได้รับผู้โดยสารซึ่งเป็นชายชาวต่างประเทศ จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสยามทีวี ไปส่งที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม

ต่อมาชายดังกล่าวได้ค่าโดยสารด้วยธนบัตรใบละ 500 บาท และตนได้ทอนเงินไป 400 กว่าบาท หลังจากนั้นตนได้นำธนบัตรดังกล่าวไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก็พบว่าเป็น ธนบัตรปลอม จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ติดตามจับกุมผู้โดยสารชาวต่างชาติดังกล่าว
 
กระทั่งเวลา 00.20 น.วันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฯ 191 เชียงใหม่ ว่ามีคนขับรถสามล้อรับจ้าง ได้ควบคุมชายชาวต่างชาติที่นำธนบัตรปลอมมาจ่ายเป็นค่าโดยสารไว้ได้ บริเวณหน้าร้านวิดีโอ ถนนช่างหล่อ ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบไปตรวจสอบก็พบ นายอภิชาติ ตุ้ยงาม คนขับรถสามล้อรับจ้าง ได้ควบคุมตัวนายซีมอนด์

ผู้ต้องหารายนี้ไว้ ซึ่งนายอภิชาติ ให้การว่าได้รู้จักกับนายประชุม และทราบมาก่อนแล้วว่านายประชุมโดนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ธนบัตรปลอม และพอตนได้ธนบัตร 500 ปลอมอีก ก็ทำทีชวนคุย และเรียกนายประชุมมาเจอที่หน้าร้านวีดีโอ ซึ่งนายประชุมก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จึงได้ช่วยกันจับกุมตัวไว้ดังกล่าว

จากการสอบสวนนายซีมอนด์ ให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ มาระยะหนึ่งแล้ว ต่อมาเงินก็เริ่มร่อยหรอลง จึงได้ไปซื้อเครื่องปริ๊นส์เตอร์และกระดาษมาทำการสแกนธนบัตร แล้วปริ้นส์ออกมาดู ก็พบว่ามีความเหมือนอย่างมาก จึงได้นำไปทดลองใช้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีคนจับได้จึงคิดว่าไม่มีปัญหา ก็ทำออกมาอีกหลายใบ แต่จะเน้นเอาไว้สำหรับเป็นค่าโดยสารเท่านั้น กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด.