โฆษก ตร.ชี้บึ้มสันติอโศก ฝีมือก่อกวนสร้างสถานการณ์

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2549 17:06 น.

โฆษก ตร.ระบุเหตุระเบิด สันติอโศก ก่อกวนหวังสร้างสถานการณ์ พร้อมตั้งข้อสังเกตเหตุบึ้มมหาดไทย ผู้จัดการ ลุมพินี และโตคิว น่าจะเชื่อมโยงกัน

วันนี้ (22 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก ตร. กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ธรรมสถานสันติอโศก ซอยนวมินทร์ 26 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.ว่า จากเหตุระเบิดบริเวณลานคอนกรีตใต้ต้นไม้ ภายในพุทธสถานสันติอโศกนั้น แรงระเบิดทำให้กระถางต้นไม้ กระจกอาคารบริเวณใกล้เคียงเสียหาย ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ของฝ่ายสรรพาวุธ กองพลาธิการ และกองพิสูจน์หลักฐาน พบว่าเป็นดินระเบิดแรงต่ำ โดยกำลังเก็บตัวอย่างเข้าเครื่องโครมาโตกราฟฟี เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นดินระเบิดชนิดใด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดไม่พบสายไฟ เชื้อปะทุ โลหะ แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย ตลอดจนชิ้นส่วนโทรศัพท์แต่อย่างใด แต่พบว่าการจุดระเบิดครั้งนี้ใช้ชนวนถ่วงเวลา โดยใช้สายจุดระเบิด และเป็นระเบิดที่ประกอบเอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าการระเบิดไม่หวังให้เกิดความเสียหายหรือทำลายชีวิตทรัพย์สิน

การระเบิดในครั้งนี้คล้ายกับเหตุระเบิดที่กระทรวงมหาดไทย คือใช้ชนวนถ่วงเวลาเหมือนกัน แรงต่ำเหมือนกัน ต่างกันเพียงที่กระทรวงมหาดไทยใช้ท่อแก๊สด้วย ขณะที่คล้ายกับที่โตคิว ถ.รัชดาฯ แต่ต่างจากที่ลุมพินี เพราะครั้งนั้นมีชิ้นส่วนนาฬิกาด้วย แต่เป็นระเบิดแรงต่ำเหมือนกัน ทั้งนี้ เหตุระเบิดที่กระทรวงยุติธรรมนั้นแตกต่างกันชัดเจนกับที่อื่นๆ เพราะพบแอมโมเนียมไนเตรต ใช้นาฬิกาดิจิตอล และแบตเตอรี่ 9 โวลต์ในการทำระเบิดแสวงเครื่อง มีเชื้อปะทุไฟฟ้า สำหรับระบิดที่บ้านพระอาทิตย์ ของสำนักพิมพ์ผู้จัดการนั้น คล้ายคลึงกับ 3 จุดแรก คือระเบิดแรงต่ำ แต่ที่บ้านพระอาทิตย์ใช้นาฬิกา และแบตเตอรี่ในการจุดระเบิด โฆษก ตร.กล่าว และว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางวัตถุระเบิดกำลังประมวลเหตุการณ์เพื่อแยกแยะอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การระเบิดที่ธรรมสถานสันติอโศกครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นว่าเป็นการก่อกวนสถานการณ์เท่านั้น โดยต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับการประกาศเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ หรือไม่

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากแนวทางการสืบสวนในเบื้องต้นเชื่อว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายที่หลายครั้งที่ผ่านมาน่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาแผนประทุษกรรมอย่างละเอียดต่อไป แต่เท่าที่พบมีความคล้ายคลึงกันบ้างหลายส่วน โดยเฉพาะที่สันติอโศก โตคิว กระทรวงมหาดไทย ลุมพินี ส่วนบ้านพระอาทิตย์นั้นต่างไปเล็กน้อย แต่ที่กระทรวงยุติธรรมแตกต่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม จุดที่เกิดเหตุระบิดที่ผ่านมาแต่ละจุดนั้น เห็นชัดเจนว่าตรงจุดใดที่เป็นจุดที่มีข่าวและมีความขัดแย้งกับรัฐบาล ตรงจุดนั้นมักจะมีสาเหตุที่ก่อให้เกิดการวางระเบิดแรงต่ำ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า จุดที่เกิดระเบิดแต่ละจุดมักจะเป็นที่ชุมนุมและประกาศตัวว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล เพราะฉะนั้น สาเหตุของการระบิดเป็นไปได้ทั้งต้องการยั่วยุ หรือต้องการสร้างความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องการความสามัคคีและปรองดอง สามารถใช้วิถีทางทางประชาธิปไตยเจรจากันได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการรุนแรง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือไปยังประชาชนให้ช่วยแจ้งตำรวจในกรณีที่พบเหตุต้องสงสัยว่าจะสร้างความปั่นป่วน โดยแจ้งไปยังเบอร์โทรศัพท์191 ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการเสนอเพื่อพัฒนาระบบการตรวจพิสูจน์โดยสุนัขตำรวจ เพื่อช่วยในการดมกลิ่นในการพิสูจน์หลักฐาน โดยจะเสนอตั้งเป็นหน่วยงานสำคัญเพื่อการพัฒนาระบบสุนัขตำรวจอย่างถูกต้อง โดยอาจดึงกำลังจากกองกำกับการสุนัขตำรวจกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) หรือ 191 ซึ่งจะนำสุนัขเข้ามาช่วยในการตรวจวัตถุระเบิด และยาเสพติด ทั้งในลักษณะป้องกันเหตุ และตรวจสอบเหตุ ให้เป็นรูปแบบและระบบที่ถูกต้องมากขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาระบบการตรวจแยกดินระเบิดที่ขณะนี้ ตร.มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาช่วยด้วย

สำหรับแนวทางป้องกันเหตุนั้น พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติในการติดตั้งกล้องวิดีโอวงจรปิด หรือซีซีทีวีโดยรอบกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ โดยเฉพาะจุดท่องเที่ยวคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย และท้องถิ่น