จับโจรปล้นร้านกาแฟ ยิงพนักงานทั้งที่ไหว้ขอชีวิต

จับโจรปล้นร้านกาแฟ ยิงพนักงานทั้งที่ไหว้ขอชีวิต

เมื่อ วันที่ 5 ก.ค. ตำรวจนครราชสีมาแถลงการจับกุม นายวรวุฒิ พิทักษ์หมู่ อายุ 29 ปี ชาวอ.ปากช่อง และนายวุฒิพล กุลแก้ว อายุ 29 ปี ชาวอ.ปากช่อง ผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์ และฆ่าผู้อื่น พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก โดยทั้งสองก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านบ้านไร่กาแฟ ถ.มิตรภาพ ต.หนองน้ำแดง เมื่อ 3 ก.ค. และใช้อาวุธปืนยิง น.ส.รัตนา บัวระภา อายุ 21 ปี ชาวอ.วังสะพุง จ.เลย และนายสมโพชน์ อมฤต อายุ 29 ปี  ชาวอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พนักงานขายร้านกาแฟเสียชีวิต

สอบสวนนายวุฒิพลให้การรับสารภาพว่า ตนและนายวรวุฒิ เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านบ้านใร่กาแฟจริง แต่คนที่ยิงพนักงานของร้านคือนายวรวุฒิ และอาวุธปืนที่ยิงก็เป็นของนายวรวุฒิ ส่วนสาเหตุที่เข้าไปชิงทรัพย์ เนื่องจากต้องการเงินไปใช้หนี้ค่ายาบ้า 10,000 บาท และสาเหตุที่เลือกร้านบ้านใร่กาแฟสด เนื่องจากตนเคยทำงานอยู่ ทำให้รู้จำนวนเงินและที่เก็บเงิน แต่ในวันที่เกิดเหตุตนได้เงินจากลิ้นชักโต๊ะไป 3,500 บาท

และขณะที่ตนกำลังหาเงินตามโต๊ะต่างๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด จากนั้นเห็นพนักงานในร้านทั้ง 2 คนนอนจมกองเลือด ตนจึงขโมยตู้เซฟออกไปงัดที่ป่าหญ้าริมถ.มิตรภาพ พบว่าในตู้เซฟมีเงินเพียง 35 บาท ก่อนที่จะมาเช่าโรงแรมมวกเหล็กอินน์กบดาน จนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนนายวรวุฒิทราบว่า เพิ่งพ้นโทษคดีชิงทรัพย์และพยายามฆ่า มาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2554 หลังถูกจำคุก 7 ปี 4 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาได้รู้จักกับนายวุฒิพลในเครือข่ายยาบ้าเดียวกัน ก่อนจะร่วมกันชิงทรัพย์ร้านบ้านใร่กาแฟ ตนและนายวุฒิพลนั่งเสพยาบ้ากันคนละ 2 เม็ด ก่อนจะลงมือชิงทรัพย์ ส่วนสาเหตุที่ต้องยิงพนักงานทั้ง 2 คน เพราะกลัวว่าจะจำใบหน้าตนได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดแม้ว่า พนักงานผู้หญิงจะยกมือไหว้ขอชีวิตก็ตาม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)