เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ต.ต.ชัชวาล หมั่นนอก สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1
หัวหน้าตำรวจสันติบาลจังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยนำเงินไปแจกซื้อเสียงที่บ้านหนองโน ต.หนองโน อ.เมือง จ.มหาสารคาม จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น MU-7 ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน มีชาย 2-3 คน คาดว่าเป็นกลุ่มเจ้าของรถยนต์วิ่งหนีไปพร้อมกดรีโมตล็อกประตูรถอย่างรวดเร็ว คงเหลือ นางทองพูน สีโยไว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 1 ต.หนองโน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ถูกจับได้
จับซื้อเสียงได้ที่มหาสารคาม พร้อมซองใส่เงินสดกว่า 70 ซอง
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางทองพูนให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ แต่เดินมาที่รถยนต์คันดังกล่าวเพื่อนำเอาเงินไปแจกซื้อเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหมู่บ้าน ทำมาแล้วหลายบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว และนำรถยกรถยนต์คันต้องสงสัยไปที่ สภ.ดอนหว่าน พร้อมแจ้งผู้บังคับบัญชา รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดมหาสารคาม เพื่อออกไปตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัย
ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ณัฐพล ยิ่งพันธ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดมหาสารคาม นายฤทธิรงค์ สุน้อยพรม ประธาน กกต.เขต 1 มหาสารคาม พร้อมคณะเดินทางได้ตรวจสอบรถยนต์และรื้อค้นสิ่งของภายในรถ พบเงินสดใส่ซองสีขาวสั้น ซองละ 500 บาท จำนวน 66 ซอง ซองขาวยาว ซองละ 2,000 บาท จำนวน 10 ซอง เงินสดในกระเป๋าถือและถุงพลาสติก จำนวน 353,085 บาท ปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 10 นัด บัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมือง จำนวนกว่า 300 ใบ ทะเบียนบ้านฉบับจริง บัตรเครดิตธนาคารต่างๆ กว่า 10 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เช็คเปล่าธนาคารกรุงไทย โฉนดที่ดิน กล่องใส่นามบัตร โทรศัพท์มือถือ กุญแจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ อีกทั้งเสื้อผ้าและกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง พนักงานสอบสวนร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตได้ร่วมกันนับจำนวนของกลางที่แน่นอน และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ประธาน กกต.เขต 1 มหาสารคาม กล่าวว่า มีแนวทางการดำเนินคดี 3 แนวทาง คือ 1.ชุดตำรวจสันติบาลที่จับกุมจะต้องบันทึกรายละเอียดคดีทั้งหมดเสนอ กกต.จังหวัด 2.ตำรวจภูธรดอนหว่านในฐานะเจ้าพนักงานสอบสวนต้องทำการสอบสวนหาผู้กระทำผิดตามหลักฐาน และพยานที่ปรากฏ ต่อ กกต.จังหวัด และ 3.กกต.เขตทำการสอบสวนเพื่อเสนอ กกต.กลาง ในการพิจารณาผลกระทบที่มีต่อการเลือกตั้งตามกฎหมาย ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและท้าทายกระบวนการประชาธิปไตยอย่างยิ่ง
พ.ต.ต.ชัชวาลเปิดเผยว่า การจับกุมแยกเป็น 2 คดี คือ คดีจับกุมนางทองพูน ต้องสืบสวนสอบสวนความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 53 ข้อหาจัดเตรียมซื้อเสียงการเลือกตั้ง ส่วนกรณีรถยนต์ที่ยึดได้ ต้องทำการสอบสวนขยายผลว่าเป็นรถยนต์ของผู้ใด เงินที่อยู่ในรถยนต์พร้อมของกลางอื่นๆ พนักงานสืบสวนของ กกต.ต้องสืบสวนขยายผลว่า มีผลต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่อย่างไร