ศาลไทยออกหมายจับเพิ่มอีก 1 สายลับเขมร คาดเป็นนายทหารระดับสูงยศพันเอก
กรณีเจ้าหน้าที่ไทยจับกุม 3 สายลับกัมพูชา ประกอบด้วย นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา และนายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม ขณะแอบลักลอบเข้ามาหาพิกัดที่ตั้งทหารไทยที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยขณะนี้ได้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไว้ที่ เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว
โดย พ.ต.อ.สมพจน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนเกือบจะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองทหารสอบปากคำ 3 ผู้ต้องหาเพิ่มเติม ที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ ผลการสอบสวน ปรากฏว่าทั้ง 3 คนให้การชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับรูปพรรณสันฐานของผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบหนีอยู่ รวมทั้งได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานของนายอึ้ง กิมไทย และนายเหวียง เติ้งยัง พบว่าข้อมูลในพาสปอร์ตของทั้ง 2 คน มีการประทับตราผ่านเข้า-ออกประเทศไทยและประเทศเวียดนามหลายสิบครั้ง
นายสุชาติ มูฮำหมัด รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นผู้ขับรถกระบะ โตโยต้าสีดำ สี่ประตู ทะเบียน ชว 1901 กรุงเทพมหานคร
พาผู้ต้องหาที่ 2 และผู้ต้องหาที่ 3 และนายวิชัยกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่อีก 3 คน ไปตรวจสอบหาพิกัดตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งทางการทหารไทย และบังเกอร์หลุมหลบภัยของชาวบ้านภูมิซรอล และทุกหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ โดยแต่ละแห่งจะใช้เวลาในการลงไปหาพิกัดทางทหารแห่งละ 5-10 นาที จากนั้นจะเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ ทุกพื้นที่ที่มีฐานที่ตั้งทางทหารและแหล่งชุมชน โดยมีนายวิชัย หรือญา เปา ที่ยังหลบหนีอยู่เป็นหัวหน้าคณะ จะมีอุปกรณ์ในการล็อกพิกัดต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างรวมทั้งแผนที่ทางทหารที่ทำพิกัดเสร็จแล้วจะอยู่กับนายวิชัย หรือญา เปา ทั้งหมด และได้นำเอกสารแผนที่ที่หาพิกัดทางทหารที่สมบูรณ์หลบหนีไป ตนเป็นเพียงคนรับจ้างขับรถได้ค่าจ้าง 5,000 บาท ส่วนรถยนต์คันที่ขับมานั้น เป็นของนายวิชัย หรือญา เปา ซึ่งได้ซื้อไว้ใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชื่อของชาวไทยคนหนึ่งเป็นผู้ซื้อ
ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวต่อว่า จากพยานหลักฐานที่ชัดเจนทั้งหมด ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
และขออนุมัติศาลจังหวัดกันทรลักษ์ออกหมายจับ นายวิชัย หรือนายญา เปา หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า chea pov หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขที่ 0978812 อายุ 48 ปี ชาวกัมพูชา ตามหมายจับของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ที่ จ.50/2554 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 54 ซึ่งนายญา เปา เชื่อได้ว่ารับราชการทหารยศพันเอก และประกอบธุรกิจส่วนตัวในประเทศกัมพูชา และจากการที่ได้ตรวจสอบจากด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งแล้ว ปรากฏว่า นายวิชัย เดินทางออกจากประเทศไทยเข้าไปในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผ่านเข้าไปในประเทศกัมพูชาที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สำหรับนายเหวียง เติ้งยัง เข้ามาไทยทางด่านคลองใหญ่ จ.ตราด วันที่ 6 มิ.ย. นายอึ้ง กิมไทย เข้ามาไทย ทางด่าน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมารวมตัวกันลักลอบตรวจหาพิกัดที่ตั้งทางทหารของไทยจนถูกจับกุมได้บางส่วน.