ผลศพชี้ อดีตรมช. ถูกฆ่า

ผล ผ่าศพ ชี้ฆาตกรรม "อนันต์ ภักดิ์ประไพ" อดีตรมช.คมนาคมสมัยรัฐบาลคึกฤทธิ์ ปราโมช หลังเสียชีวิตในโรงแรมของตนเอง เมืองสองแคว

แพทย์ระบุกะโหลกแตก ซี่โครงหัก ม้ามแตก ตร.รุดเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกรอบ สอบทุกประเด็น ทั้งเรื่องทำประกันชีวิต ทรัพย์สิน ปมส่วนตัวอื่นๆ ขณะที่น้องชายให้ข้อมูล พี่อยู่คนเดียว แต่ชอบวิพากษ์วิจารณ์การเมือง ยันครอบครัวไม่ขัดแย้ง พบเบาะแสล่าสุดในบันทึกของโรงแรม มีคนมาเข้าพักตอน 4 ทุ่ม ก่อนถูกฆ่า

จากกรณีพบศพ 'นายอนันต์ ภักดิ์ประไพ' อายุ 74 ปี อดีตส.ส.พิษณุโลก และอดีตรมช.คมนาคม สมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปีพ.ศ.2518 เสียชีวิตภายในห้องพักโรงแรมบ้านสวน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นโรงแรมของตนเอง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายได้ ขณะที่ทางครอบครัวให้ข้อมูลว่า นายอนันต์มีโรคประจำตัว ป่วยเป็นเบาหวาน และเคยทำบายพาสหัวใจเมื่อ 7 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่นำศพไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่ร.พ. เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก.เมือง จ.พิษณุ โลก เปิดเผยว่า จากการนำศพนายอนันต์ ภักดิ์ประไพ ผ่าพิสูจน์ที่ร.พ.มหาวิทยาลัยนเรศวร แพทย์รายงานว่ากะโหลกศีรษะแตก กระดูกซี่โครงหัก และม้ามแตก เป็นการฆาตกรรม โดยถูกทำร้ายร่างกายก่อนจะเสียชีวิต

จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำประกันชีวิต ทรัพย์สิน และปัญหาส่วนตัวอื่นๆ ต้องสอบสวนทุกประเด็น อย่างไรก็ตาม ผู้ตายพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง จึงทำให้ยากแก่การหาหลักฐาน ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะหนึ่ง และรายงานเรื่องนี้ให้ พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.พิษณุ โลก ทราบแล้ว

ต่อมา พ.ต.ท.ภาณุ พิทยาเวชวิวัฒน์ สว.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในห้องพักหมายเลข 9 โรงแรมบ้านสวน สถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจหาลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ เส้นผมของผู้ตาย และของผู้อื่น รวมทั้งตรวจสอบรายละเอียดข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องทั้งหมดด้วย เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย

ด้านนายณรงค์ ภักดิ์ประไพ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 538/1 ถนนบรมไตรโลกนาถ 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก น้องชายของผู้ตาย กล่าวว่า มีพี่น้อง 6 คน นายอนันต์เป็นพี่ชายคนโต ไม่ค่อยไปมาหาสู่กัน ต่างคนต่างอยู่ นานๆ ครั้งจะมาหากันบ้าง ส่วนสาเหตุฆาตกรรมนั้น ไม่ทราบมาจากเรื่องอะไร กำลังตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีอะไรหายไปบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่มีปัญหาภายในครอบครัวและหมู่ญาติพี่น้อง

ส่วนนายชัด อรุณรัตน์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 428/228 หมู่ 1 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย กล่าวว่า สงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่าอาจจะมีเรื่องไม่ปกติ กระทั่งทราบผลผ่าพิสูจน์ศพว่าถูกฆาตกรรม ผู้ตายอยู่คนเดียวมานาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร แต่ชอบติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ชอบวิพากษ์วิจารณ์การเมือง โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายลงบันทึกของโรงแรมไว้ว่ามีคนมาพักเวลา 22.00 น. คาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าหลังเวลา 22.00 น. แต่ไม่รู้ว่าถูกฆ่าเพราะสาเหตุอะไร คงต้องรอผลการสืบ สวนสอบสวนจากตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายอนันต์ ภักดิ์ประไพ เป็นบุตรของนายอรุณ ภักดิ์ประไพ ผู้ก่อตั้งกิจการรถเมล์บ้านเรา ที่เปิดบริการเดินรถเมล์รอบเมืองพิษณุโลกมาร่วม 50 ปีแล้ว และอยู่ในสถานภาพโสด เคยเป็น ส.ส.พิษณุโลก ปีพ.ศ.2518 และเป็นรมช. คมนาคม สมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เคยร่วมกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และนายบุญเกิด หิรัญคำ อดีตส.ส. เป็นโจทก์ฟ้องจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ กับพวก เป็นจำเลยต่อศาลอาญาในข้อหากบฏ เนื่องจากจอมพลถนอมทำรัฐประหาร 17 พ.ย.2514 ต่อมาจอมพลถนอม สั่งจับกุมบุคคลทั้ง 3 และมีคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิวัติเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2515 ให้จำคุกนายอุทัยไว้มีกำหนด 10 ปี และให้จำคุกนายอนันต์ และนายบุญเกิดคนละ 7 ปี

ภายหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ที่นักศึกษาประชาชนขับไล่รัฐบาลจอมพลถนอมพ้นอำนาจ ในวันที่ 25 ม.ค.2517 รัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ออกพ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติ  โดยมีหมายเหตุระบุว่าการฟ้องร้องเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต และเป็นการแสดงความคิดเห็นตามครรลองแห่งระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนทุกคน การใช้สิทธิฟ้องร้องคดีต่อศาลยุติธรรมย่อมจะถือว่าเป็นการกระทำความผิดมิได้ การที่จอมพลถนอมมีคำสั่งให้จำคุกบุคคลทั้ง 3 จึงเป็นการกระทำที่ มิชอบ สมควรตรากฎหมายยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และให้ปล่อยตัวบุคคลทั้ง 3 ทันทีเมื่อประกาศใช้บังคับกฎหมายนี้