นักวิชาการสาวแสบ หลอกตุ๋นเหยื่อเข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฎชื่อดังย่านคลองหลวง เหยื่อหลงเชื่อกว่า 20 ราย สูญเงินนับล้านบาท
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 7 มิ.ย. ผู้เสียหาย 23 ราย เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าพวกตนได้ถูกน.ส.อุสา หรือเอ๋ พูลเหลือ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/3 หมู่ 4 ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ นักวิชาการห้องปฎิบัติการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลอกเข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ โดยอ้างมีตำแหน่งว่างหลายอัตรา เช่น ตำแหน่งอาจารย์ ครู ครูผู้ช่วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ทั้งหมดรวม 26 อัตรา ทำให้เหยื่อทุกรายต่างหลงเชื่อ จึงยอมจ่ายเงินคนละ 80,000-130,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท แต่พยายามบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา
ว่าที่ร.ต.วรภพ สุทธิสา พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่าตนทราบจากเพื่อนคนหนึ่งว่า
น.ส.อุสาแจ้งว่ามีตำแหน่งว่างหลายตำแหน่งในมหาวิทยาลัยดังกล่าว สามารถเข้ารับราชการได้เลย ตนกับภรรยาและเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ต่างหลงเชื่อ ต้องจ่ายเงินให้ไปเกือบ 3 แสนบาท และเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.อุสาได้ทำหนังสือราชการให้พวกตนและเพื่อนต่างอาชีพอีก 20 คน มารายงานตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในมหาวิทยาลัย หลังจากนั้น น.ส.อุสาก็แจ้งให้ทราบว่า ขอเลื่อนรายงานตัวออกไปก่อน โดยให้พวกตนมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ แต่พวกตนเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกัน
ทางด้านน.ส.นิด คำไธสง กล่าวว่าตนเป็นผู้จัดการร้านอยู่ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และทราบจากเพื่อนว่ามีตำแหน่งครูว่าหลายตำแหน่ง จึงหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้น.ส.อุสาเป็นเงิน 80,000 บาท
นอกจากนี้ น.ส.อุสายังสอบถามว่ามีญาติๆอีกหรือไม่ เพราะขาดครูอีก 2 คน มีตำแหน่งว่างอยู่ ตนจึงโทรฯไปบอกน้องๆที่บ้าน ให้นำเงินมาจ่าย นอกจากนี้น.ส.อุสาบอกด้วยว่า ถ้าต้องการบ้านพักข้าราชการต้องเสียเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท ตนเห็นว่าใกล้ที่ทำงานจึงยอมจ่ายเงินไป ตนสมัครงานไว้เมื่อเดือนธ.ค.53 และหาเช่าบ้านไว้ตั้งแต่เดือนม.ค.54 แต่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.54 ให้ตนและญาติๆมารายงานตัว แต่ถูกเลื่อนไปอีก คาดว่าคงจะถูกหลอกแน่ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเอาผิดกับน.ส.อุสาให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นกลุ่มผู้เสียหาย ได้หลอกล่อ น.ส.อุสาให้มาเจรจากันที่โรงพัก แล้วให้ตำรวจสอบปากคำและแจ้งดำเนินคดีฉ้อโกงไว้ก่อน และจะสอบสวนเอาผิดเรื่องการปลอมแปลงเอกสารทางราชการต่อไป ส่วนผู้เสียหายรายใดที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันนี้ ให้มาแจ้งความเพิ่มได้ที่ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา