โจรป่วนใต้บุกเผาสถานีอนามัย

"ยิงด้วยอาก้า แล้วเผาเกรียม"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกฆ่าและเผา ที่หน้าบ้านเช่าเลขที่ 52/102 หมู่ 10 ต.บานา จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ไปสอบสวนพบศพชายในสภาพถูกเผาไหม้เกรียม มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนอาก้าที่ศีรษะและลำตัวหลายนัด ทราบชื่อนายสมชาย เพ็ชรประเทศ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/2 ซอย 2 ถนนรามโกมุท ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี พบปลอกกระสุนอาก้า 5 ปลอก กับขวดเบียร์บรรจุน้ำมันเบนซินและไม้ขีดตกในที่เกิดเหตุ

สอบสวนทราบว่านายสมชายผู้ตายเป็นอดีตตำรวจชุมชน ขณะเกิดเหตุได้ขี่รถ จยย.กลับจากธุระมาจอดหน้าบ้านเช่าหลังดังกล่าว ระหว่างนั้นมีคนร้ายดักซุ่มในมุมมืดใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงใส่ เหยื่อพยายามวิ่งหนี แต่คนร้ายไล่ยิงจนล้มทรุดขาดใจตายคาที่ จากนั้นคนร้ายใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผาศพไหม้เกรียมก่อนหลบหนีไปโดยโปรยตะปูเรือใบบนถนนป้องกันการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ด้วย

"วางเพลิงหอพักนักเรียน"


ต่อมาเวลา 12.30 น. วานนี้ (20 ธ.ค.) พ.ต.อ.วัชรินทร์ อมราพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเพลิงหม้ที่หอพักสถาบันปอเนาะปะโด หมู่ 5 บ้านปะโด ต.ปะโด ไปตรวจสอบพบหอพักปอเนาะสร้างด้วยไม้ชั้นเดียวยกพื้นขนาดเล็กหลายหลังติดกัน ถูกไฟไหม้วอดไป 1 หลัง ส่วนอีกหลังถูกไฟไหม้บางส่วน สอบสวนทราบว่าขณะที่นักเรียนในปอเนาะกำลังเรียนในห้องเรียนก็เกิดเพลิงไหม้ที่บริเวณหอพักและนักเรียนได้ช่วยกันดับไฟไว้ทันก่อนจะลุกลาม ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รายงานว่าวันเดียวกันทาง กอ.สสส.จชต. ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้แจกใบปลิวให้กับประชาชนตามร้านน้ำชา และสถานที่ราชการต่างๆ โดยใบปลิวดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนจำนวน 3 แผ่น โดยใบแรกกล่าวถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกำลังปล่อยข่าวลือหลอกลวงเพื่อให้ประชาชนต่อต้านเจ้าหน้าที่ ฉบับที่ 2 เจ้าหน้าที่ทุกคนมีกำลังใจกวาดล้างจับกุมคนร้ายได้ เพราะพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมมือแจ้งเบาะแส ส่วนฉบับที่ 3 กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องการให้เกิดความแตกแยกทางศาสนาต้องการให้พี่น้องคนไทยเข่นฆ่ากันเอง ซึ่งมีประชาชนสนใจอ่านโดยทั่วไป

"ลอบวางบึ้ม"


ด้าน จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ร.ต.ต.เด่นพงษ์ เต็มแก้ว ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี รับแจ้งมีทหารถูกลอบวางระเบิด บนถนนสายสุไหงปาดี-ตาเซะใต้ บ้านบาโงยาโฮ หมู่ 6 ต.ปะลุรู จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล ผกก. พ.ท.เฉลิมพล จินารัตน์ ผบ.ฉก.39 ไปตรวจสอบ พบบริเวณต้นเงาะริมถนนถูกระเบิดหักโค่น และบริเวณข้างอาคารศูนย์แปรรูปผลไม้บ้านตาเซะใต้ ห่างจากจุดแรกประมาณ 30 เมตร พบหลุมระเบิดกับชิ้นส่วนระเบิดและสายไฟยาวกว่า 100 เมตร ลากเข้าไปในป่า ส่วนคนเจ็บนำส่ง รพ.สุไหงปาดี ชื่อพลทหารวรยุทธ์ บุตรจันทร์ อายุ 23 ปี สังกัดร้อย ร.6011 ฉก.39 ถูกสะเก็ดระเบิดที่โคนขาขวา

สอบพบว่า ขณะ จ.ส.อ.เทียบ อ่อนหวาน หัวหน้าชุดลาดตระเวน ร้อย ร.6011 ฉก.39 พร้อมกำลัง 6 นาย เดินลาดตระเวนมาถึงบริเวณดังกล่าว คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดทำงานด้วยแบตเตอรี่ที่ฝังดักไว้ 2 ลูก ระเบิดขึ้นพร้อมกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้พลทหารวรยุทธ์ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บดังกล่าว

"ประท้วงให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย"


ต่อมาเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องสงสัยกำลังยืนโทรศัพท์ ลักษณะมีพิรุธ คุมตัวมาสอบชื่อนายมะสายูกี มามะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261/4 บ้านบาโงยาโฮ หมู่ 6 ต.ปะลุรู ปรากฏว่า มีญาติของนายมะสายูกีและชาวบ้านประมาณ 70 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กมาประท้วงที่หน้าโรงพักเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายมะสายูตี เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า นายมะสายูตีเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยและคุมตัวไปที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อีก 3 วันจะให้ญาติเข้าเยี่ยม ญาติๆและชาวบ้านเข้าใจพากันสลายตัวไป

บ่ายวันเดียวกัน พ.ท.จีระศักดิ์ เคนทวาย รองผบ.ฉก.34 นำกำลัง 50 นาย เข้าตรวจค้นบ้านกายูมาตี หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และบ้านไอปาเซ หมู่ 8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ โดยนำนายอาลียะห์ มะหะมะ แกนนำกลุ่มอาร์เคเค ที่ถูกจับกุมคดียิงนายมาหามะบาละดี ซาอุ ผู้ใหญ่บ้านบาโงอาแซ หมู่ 6 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เสียชีวิต และวางระเบิดทหารชุดคุ้มครองครู บริเวณสะพานคลองตันหยง หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ ทำให้ จ.ส.อ.อดุลย์ แก้วสน หัวหน้าชุดได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ไปชี้จุด โดยจุดแรกบริเวณเนินดินริมถนนระแงะ-จุฬาภรณ์พัฒนา 5 บ้านกายูมาตี หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส พบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องทินเนอร์หนัก 5 กก. 2 ลูก อยู่ในสภาพใช้งาน ส่วนอีกจุดบริเวณป่าทึบในสวนผลไม้ หลังหมู่บ้านไอปาเซ พบถุงพลาสติกแบบหูหิ้วที่ใช้บรรจุอาวุธปืนสงครามฝังดินไว้ 4 ถุง ส่วนอาวุธปืนสงครามตรวจค้นไม่พบ คาดว่าคนร้ายขุดเอาไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น

"ลอบวางเพลิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก"


ขณะเดียวกันที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.อภิรัฐ สังข์ขาว ผกก.สภ.อ.ยะหา ร.ต.อ.ดุนยนิตย์ ชูเชื้อ ร้อยเวร พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 45 ยะลา ไปตรวจที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทำนบ หมู่ 3 ต.ปะแต ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางเพลิง พบบริเวณห้องอนุบาลเด็กอุปกรณ์ภายในห้อง ฝ้าเพดาน วงกบประตูหน้าต่างถูกไฟไหม้เสียหาย พบเศษกระสอบป่านและเศษผ้าขี้ริ้วชุบน้ำมันเบนซินตกอยู่ จากนั้นไปตรวจที่สถานีอนามัยบ้านฆอรอราแม หมู่ 4 ต.ปะแต พบห้องเก็บเวชภัณฑ์ชั้นล่างถูกไฟไหม้เสียหาย คนร้ายได้ขโมยเอาเวชภัณฑ์และยาสามัญประจำบ้านที่เก็บไว้ชั้นบนไปหมดเกลี้ยง นอกจากนี้ พบเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การแพทย์ และข้าวของเครื่องใช้อีกหลายรายการถูกทุบทำลายเสียหาย และคนร้ายยังลากตู้เอกสาร โต๊ะเก้าอี้ เครื่องใช้ มากองสุมกลางห้องแล้วราดน้ำมันราดจุดไฟเผาเสียหาย

ส่วนเหตุการณ์ลอบวางเพลิงทั้ง 2 ราย เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน ชุดดำ สวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ชุดแรกบุกเข้าไปในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเก็บกวาดเอายาและเวชภัณฑ์ก่อนใช้น้ำมันราดจุดไฟเผา ขณะเดียวกันคนร้ายอีกชุดบุกเข้าไปในสถานีอนามัยบ้านฆอรอราแม ทุบทำลายข้าวของแล้วใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาก่อนพากันเผ่นหนี ระหว่างนั้นชาวบ้านเห็นเหตุการณ์พากันมาช่วยดับไฟไว้ได้ทันก่อนจะลุกลาม

"ระเบิดตลาด เจ็บสาหัส 5 คน ตาย 2 ศพ"


ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.สสส.จชต. ได้ควบคุมตัวนายเปาซี ปาแดปูซู อายุ 49 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดนประจำ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งสอบพบเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ จากการเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 58 หมู่ 11 ต.บันนังสตา พบปืนขนาด .45 1 กระบอก กระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 2 นัด กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 นัด กระสุนปืนลูกซอง พร้อมชุดลายพราง วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นายเปาซีได้ให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าร่วมขบวนการมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ผ่านการซูเปาะให้อยู่ในขบวนการก่อความไม่สงบ โดยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในการติดตามหาข่าว ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการติดต่อสื่อสารทางวิทยุสื่อสารกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ สำหรับนายเปาซีเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนของ อำเภอบันนังสตา มานานถึง 19 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ ระหว่างการสอบสวนขยายผล

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดซ้อมเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดย่านการค้าในเมืองหาดใหญ่ 2 จุด จุดแรกที่บริเวณหน้าตลาดแผงทอง ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 จำลองเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในรถ จยย.ที่จอดริมถนน มีการจุดระเบิดเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 5 คน และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน และอีกจุดเป็นบริเวณตลาดกิมหยง ถนนศุภสารรังสรรค์ จำลองเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน โดยมี พ.ต.ท.เล็ก มียัง สวป. เข้าควบคุมจุดเกิดเหตุและสั่งการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้องควบคุม สภ.อ.หาดใหญ่ การซักซ้อมครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่หากเกิดเหตุร้ายขึ้น ทั้งการเข้าควบคุมพื้นที่ การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ การจัดการจราจร การเข้าตรวจสอบและทำลายวัตถุต้องสงสัย ระหว่างการซ้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับความสนใจจากประชาชนมุงดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลจากการซ้อมความพร้อมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำไปปรับปรุงในบางจุดที่ต้องแก้ไข เพื่อให้การดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้

"ส่งกองกำลังทหารพรานหญิง 100 คนลงพื้นที่"


พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก หัวหน้าศูนย์ ประชาสัมพันธ์ กอ.สสส.จชต. กล่าวว่า จากสถานการณ์ รุนแรงที่ผ่านมา ประกอบกับกลุ่มก่อความไม่สงบมีการนำเด็กและสตรีมาเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุเพิ่มมากขึ้นดังนั้น กองทัพบกมีนโยบายในการส่งกองกำลังทหารพรานหญิงกว่า 100 คน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ลงพื้นที่ปฏิบัติงานในเดือน ม.ค.นี้ เพื่อเข้าไปทำความเข้าใจและเจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงและเด็ก ที่ผ่านมามักตกเป็นเหยื่อในการเข้าร่วมชุมนุมประท้วงบ่อยครั้ง และเชื่อว่าจะสามารถพังกำแพงความเชื่อที่บิดเบือนหลักศาสนาลงได้ เนื่องจากทหารพรานหญิงส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่มีการศึกษาระดับปริญญา อีกทั้งมีความรู้ ความเข้าใจปัญหาชายแดนภาคใต้อย่างถูกต้อง ไม่ได้ถูกครอบงำทางความคิด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการสกัดกั้นกลุ่มขบวนการผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ทางกองทัพยังจะส่งกองกำลังทหารพรานทั้งชายและหญิงที่ผ่านการฝึกอบรม ทั้งยุทธวิธีการป้องกันตัว รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ เข้าไปอยู่ในพื้นที่เพื่อป้องกันการดึงประชาชนเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุความไม่สงบด้วย

ที่กองการบิน กรมการขนส่งทางบก (ขส.ทบ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ให้ สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นคิดว่าจะต้องค่อยๆลดลง ซึ่งในวันนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 1 คน ทั้งนี้ วิธีการที่เกิดขึ้นอาจจะมีการได้เปรียบบ้าง เสียเปรียบบ้าง ทั้งนี้ ถ้าหากเราได้เปรียบบ่อยๆ ขวัญกำลังใจของฝ่ายตรงข้ามก็จะต้องกระทบกระเทือน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของการยุทธ์หรือการสงครามอย่างหนึ่ง เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะใช้ประเทศบรูไนในการเจรจากับกลุ่มแกนนำผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ. สนธิกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ทางกองทัพบกได้ให้ประชาชนในพื้นที่ 2 กลุ่มเดินทางเข้าไปศึกษาข้อเท็จจริง

"ไม่เกี่ยวกับ บรูไน "


เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้ข้อมูลในการเรียกร้องเพื่อแลกกับการยุติความรุนแรงในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คณะที่ลงไปทำงานเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ทั้งนี้ ผู้ที่ลงไปทำงานด้านนี้เป็นพวกครูสอนศาสนาและเป็นพวกที่เคารพนับถือของประชาชน เมื่อถามว่า จะใช้ประเทศบรูไนเป็นสถานที่ในการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องภายในของเรา เราจะต้องว่ากันเอง แต่เขาให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดความสะดวกในบางเรื่องที่เขาอาจจะให้คำแนะนำ แต่เขาคงไม่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของเรา

สำหรับกรณีที่นายมูกริซ มหาเธร์ ผอ.องค์การสันติภาพโลกเปอร์ดานา บุตรชายของมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกมาระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอาจจะมีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้ขึ้นที่บรูไนซึ่งถือเป็นประเทศที่เป็นกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ของไทยนั้น วันเดียวกันที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่มีข้อมูล ข้อเสนอในเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว อย่างไร ก็ตาม ฝ่ายไทยรับทราบความปรารถนาดี และความพร้อมที่จะสนับสนุนในการสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์ในภาคใต้ของไทย โดยรัฐบาลพอใจกับความร่วมมือที่ได้รับจากฝ่ายมาเลเซียในทุกระดับ และขอขอบคุณความร่วมมือจากทางการมาเลเซีย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์