สลดนศ.สองแควหนาวตายคาห้องสพท.หนองคายห้ามนร.ก่อไฟผิง


"ห้ามก่อไฟผิง"


นศ.สองแคสเป็นศพคาหอพัก คาดหนาวตายเพราะไม่มีเสื้อ-ผ้าห่ม พิลึก สพท.หนองคายห้ามนักเรียนก่อไฟผิง และออกนอกห้องเรียนหากพบเอาผิดครู

ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะเขตภาคเหนือและภาคอีกสาน หลายจังหวัดเริ่มมีสภาพอากาศหนาวเย็นแล้ว มีเด็กนักเรียนที่อยู่ในชนบทต้องประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว

นายอัมพร พิณสา รองผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หนองคาย เขต 3 รักษาการ ผอ.สพท.เขต 3 กล่าวว่า เรื่องนี้แต่งตั้งคณะกรรมการประธานเครือข่ายโรงเรียนออกสำรวจความต้องการของนักเรียนที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว พบมีนักเรียนร้อยประมาณ 1,000 คน จากนักเรียนทั้งหมดกว่า 5,000 คนที่ขาดแคลนเสื้อกันหนาว จึงประสานองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หนองคาย เพื่อขอเครื่องนุ่งห่มมาแจก

ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องลมแรงกับเรื่องไฟ เพราะปีที่ผ่านมานั้น นักเรียนมักจะออกมาก่อไฟผิงคลายหนาว ซึ่งในช่วงหน้าหนาวปีนี้ เกิดเหตุวางเพลิงโรงเรียนหลายแห่งจึงสั่งการให้ทุกโรงเรียน โดยให้ครูดูแลนักเรียนห้ามก่อไฟผิงโดยเด็ดขาด ถ้ามีจะเอาผิดครู และห้ามนักเรียนออกนอกห้องเรียนในเวลาเรียน ส่วนการออกมาคลายหนาวด้วยการผิงแดดนั้น ต้องให้ครูผู้สอนและครูประจำชั้นดูแล หากเกิดปัญหาขึ้นต้องรับผิดชอบด้วย นายอัมพร กล่าว

"ป้องกันไฟไหม้"


นายธีระวุฒิ เจริญราช ผอ.สพท.หนองคาย เขต 1 กล่าวว่า ในพื้นที่เขต 1 มีโรงเรียนทั้งหมด 181 โรง มีนักเรียน 47,764 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมืองไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหนาว แต่ก็ยังมีโรงเรียนรอบนอกอีกหลายแห่งที่มีปัญหาอากาศหนาว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งห้ามก่อไฟในเขตโรงเรียนอย่างเด็ดขาด ยิ่งลมแรงอยู่แล้วยิ่งจะเพิ่มชนวนมากขึ้น พร้อมกันนี้สั่งให้ครูอยู่เวรยามตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นครูเองก็ต้องรับผิดชอบ

นายชูชาติ พวงมาลี รองผอ.โรงเรียนบุ่งคล้านคร อ.บุ่งคล้า สังกัด สพท.หนองคาย เขต 3 บอกว่า โรงเรียนมีนักเรียน 768 คน หลังจากมีคำสั่งห้ามก่อไฟในโรงเรียนก็จะให้นักเรียนออกมาเรียนที่สนามหญ้าเพื่อรับไออุ่นจากรับแสงแดดแทน และให้นักเรียนใส่ชุดวอร์มมาเรียนทุกวัน เพื่อไม่ให้เป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และเพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้ด้วย ส่วนในช่วงกลางคืนนั้นก็กำชับให้ครูเวรที่อยู่เวรพยายามเดินตรวจตราอย่างดี

น.ส.นุจรินทร์ ประเคนคะชา ครูโรงเรียนบ้านหนองเดิ่นทุ่ง ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า กล่าวว่า ตอนเช้าบรรดาครูจะพานักเรียนไปนั่งเรียนเป็นกลุ่มๆ ที่สนามฟุตบอล โดยอนุญาตให้นักเรียนเอาผ้าห่มมาโรงเรียนได้ ไม่ให้มีการก่อไฟเพราะผู้บริหารสั่งห้าม

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต



แม่ฮ่องสอนพระงดบิณฑบาต


ส่วนภาคเหนือ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ชาวไทยภูเขาและพระภิกษุ-สามเณรที่จำวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ต้องก่อไฟผิง เพื่อคลายหนาวในช่วงเวลาเช้าและค่ำ นอกจากนี้ยังพบว่าพระภิกษุจำนวนมากงดออกบิณฑบาต เนื่องจากสู้กับอากาศที่หนาวเย็นในตอนเช้าไม่ไหว

นายธาดา ศรัทธา หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.แม่ฮ่องสอน อุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ เมื่อเช้าวันที่ 19 ธันวาคม ที่ อ.ปาย วัดได้ 9 องศาเซลเซียส อ.ปางมะผ้า วัดได้ 10.0 องศาเซลเซียส และ อ.เมือง วัดได้ 13 องศาเซลเซียส และมีหมอกหนาแน่น ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นอยู่ประมาณ 20-30 เมตรเท่านั้น ผู้ที่ใช้รถบนท้องถนนต้องใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง

นายสุรพันธ์ สืบฟัก รองผู้อำนวยการ สพท.แม่ฮ่องสอน เขต 1 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ สพท.เขต 1 กล่าวว่า มีโรงเรียนรับผิดชอบ 129 แห่งใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ขุนยวม อ.ปาย และ อ.ปางมะผ้า พบมีเด็กนักเรียนขาดแคลนเครื่องกันหนาว 1.2 หมื่นคน

นายทวนทอง ศรีสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ สพท.แม่ฮ่องสอน เขต 2 กล่าวว่า ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย และอ.สบเมย มีเด็กนักเรียนขาดแคลนเสื้อกันหนาวและผ้าห่ม 5,319 คน จาก 65 โรงเรียน ทั้งนี้นักเรียนที่ขาดแคลนเสื้อกันหนาวนั้นในช่วงเวลาเรียนต้องออกมาเรียนกลางสนามหญ้าเพื่อรับความอบอุ่นจากแสงแดด

ลงพื้นที่รักษาชาวเขาประสบภัยหนาว


ขณะที่ จ.ตาก หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ลงพื้นที่ออกตรวจสุขภาพให้แก่ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่บ้านม้งใหม่พัฒนา หมู่ 5 ต.ท้องฟ้า อ.บ้านตาก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 60 กิโลเมตร มีประชากรอาศัยอยู่ 1,800 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุตั้งแต่ 1 เดือนถึง 15 ปี และมีฐานะยากจน และกำลังประสบภัยหนาว ซึ่งก่อนหน้านี้ตรวจพบเด็กในหมู่บ้านดังกล่าวร้อยละ 60 ป่วยเป็นโรคหวัด จนถึงขั้นเป็นโรคปอดบวม

นายบุญช่วย รัศมี เจ้าหน้าที่บริหารงานสาธารณสุขระดับ 8 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตาก กล่าวว่า ช่วงระยะนี้มักพบชาวไทยภูเขาป่วยเป็นโรคหวัดและโรคปอดบวมค่อนข้างมาก สาเหตุมาจากการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ทัน โดยเฉพาะเด็กเล็กและคนแก่จะป่วยเป็นโรคดังกล่าวได้ง่าย สาเหตุเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ก็คือเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน ไม่มีเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ส่วนวิธีป้องกันที่ดีคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนไม่ควรเดินออกจากบ้านโดยปราศจากเครื่องนุ่งห่มคลายหนาว

เลยอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา


ส่วนที่ จ.เลย นายคำพัน บุตรราช หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย กล่าวว่า ช่วงนี้ จ.เลย ประสบกับภาวะภัยหนาวเนื่องจากความกดอากาศสูง จากประเทศจีน พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น เมื่อเช้าวันที่ 19 ธันวาคม บริเวณอุทยานแห่งชาติภูกระดึง วัดได้ 8.2 องศาเซลเซียส สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ วัดได้ 8.5 องศาเซลเซียส และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง วัดได้ 6.7 องศาเซลเซียส

นายลือชัย ทาเภา กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง บ้านธาตุ หมู่ 1 ต.ธาตุ อ.เชียงคาน กล่าวว่า ช่วงนี้น้ำในแม่น้ำเย็นมาก ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ 100 กระชัง บางตัวแข็งตาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปปลาอาจตายเพิ่มมากขึ้น

นายวิรัช ภัทรภิญโญ ประมงจังหวัดเลย กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวทุกปี ผู้เลี้ยงปลามักประสบปัญหา เพราะเมื่อน้ำเย็นจัดปลาจะกินอาหารน้อยลง ส่งผลให้โตช้า

นศ.หนาวตายคาหอพัก


เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 19 ธันวาคม ร.ต.อ.รุ่งอรุณ พลวัง ร้อยเวร สภ.อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ในหอพักเลขที่ 1 หอพักศิลปะ ตั้งอยู่ภายในวิทยาลัยการอาชีพนครไทย หมู่ 3 ต.เนินเพิ่ม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ นายประจักษ์ อุปะระ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 5 ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพศสวมเพียงเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ไม่ห่มผ้า จากการตรวจสอบร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย

เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า นายประจักษ์ อาจมีโรคประจำตัว ประกอบกับพื้นที่ อ.นครไทย อยู่บนที่สูงและมีภูเขาล้อมรอบ อุณหภูมิต่ำสุดที่วัดได้ 12-14 องศาเซลเซียส และผู้ตายนอนไม่ห่มผ้ากันหนาว จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามจะต้องชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

นายบุญติด แสงปัญญา อายุ 18 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า นายประจักษ์ เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวช.ปีที่ 1 เป็นคนไม่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมกับผู้ตายเข้านอนตามปกติ จนกระทั่งรุ่งเช้าตื่นขึ้นมาเห็นผู้ตายยังคงนอนอยู่ แต่ไม่ห่มผ้า จึงเขย่าตัวเพื่อให้ตื่นไปเรียนหนังสือ กลับพบว่าเพื่อนนอนตัวแข็งทื้อจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำหอพักให้แจ้งตำรวจ

ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา น.พ.เลิศชัย จิตรเสรี ผู้อำนวยการ รพ.บางปะอิน กล่าวว่า จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวแล้ว 1 คน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ชื่อ นางสำรวย กุรีดี อายุ 50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่ใต้ถุนบ้านเลขที่ 14 หมู่ 8 ต.วัดยม อ.บางปะอิน สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น ตรวจสอบไม่พบบาดแผล แต่พบว่านอนเสียชีวิตลักษณะเหมือนคนนอนหลับแล้วเสียชีวิตไปเอง แม้ยังจะยังสรุปไม่ได้ แต่ก็พอจะสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจเสียชีวิตเพราะอากาศหนาวเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด





เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์