ผลงานชิ้นโบแดงของตำรวจไทย สืบ สวนแกะรอยตามลากคอฆาตกรโหด ฆ่า นายเจมชีด ชอร์ หนุ่มใหญ่เอ็นจีโอชาวอินเดีย หมกศพในห้องพักโรงแรมดังย่านสุขุมวิทมาได้สำเร็จ โดยใช้เวลาร่วม 2 อาทิตย์มือฆ่ายอมจำนนจนได้
ที่แท้เป็นหนุ่มชาวมะกันอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ ทำงานเป็นไกด์เถื่อนหลบหนีเข้าเมือง ที่รู้จักกันทางเว็บไซต์ ได้ชักชวนไปเสพสุขที่โรงแรม แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดทะเลาะวิวาทกัน ก่อนจะแย่งมีดมากะซวกเหยื่อจนดับคาห้องแล้วเชิดทรัพย์สินหลบหนี
แต่ก็ไม่รอดเมื่อถูกตำรวจตามจับได้
คดีนี้เกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันที่ 11 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม นายจัสติน จาเร็ต อีนอส อายุ 39 ปี ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 264/54 ลงวันที่ 11 พ.ค. 54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น
อดีตนาวิกฯมะกัน มือฆ่าเอ็นจีโอแขก ยอมจำนนดีเอ็นเอ
คดีนี้คนตายทำงานองค์กรเอกชน หรือเอ็นจีโอ เกี่ยวกับสหภาพคุ้มครองโรคปอด เดินทางมาประชุมที่เมืองไทยเป็นประจำ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. รีบระดมชุดสืบสวนเข้าคลี่คลายคดีนี้ทันที
เริ่มแรกตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม ที่สามารถบันทึกภาพชายต้องสงสัย เป็นชาวต่างประเทศ อายุประมาณ 30-40 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 180 ซ.ม. ผิวขาว ตัดผมสั้นเกรียน สวมหมวกแก๊ปปกปิดใบหน้า เข้าไปภายในห้องเกิด เหตุเวลา 14.00 น. หลังจากนั้น 20 นาที ก็ออกจากห้องไปอย่างลุกลี้ลุกลน
อีกทั้งคำให้การของ นายบิเรน ด้า เพื่อนผู้ตายได้ระบุว่านายเจมชีด ชอว์ มาขอร้องในช่วงดังกล่าวจะมีแขกไปพบที่ห้องพัก จึงขอความเป็นส่วนตัวอย่าได้ออกมารบ กวน คาดว่าได้นัด แนะชายต้องสงสัยไปพบก่อนจะถูกสังหาร เนื่องจากผู้ตายมีพฤติกรรมชอบเพศเดียวกัน
ส่วนทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่ และกระเป๋าสตางค์ได้หายไปด้วย คาดว่าคนร้ายนำติดตัวไปหลังก่อเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นรอยฝ่าเท้าและคราบเลือดของผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏอยู่ภายในห้องพัก รีบส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานนำส่งเข้าเครื่องตรวจเพื่อพิเคราะห์หาอย่างละเอียด
ระหว่างนั้นทีมสืบสวนยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยนำภาพผู้ต้องสงสัยที่วงจรปิดจับภาพไว้ได้ แจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวตามแหล่งสถานบันเเทิงเมืองกรุงดู
กระทั่งได้ข้อมูลว่าน่าจะคล้ายกับ นายจัสติน ซึ่งพักอยู่ถนนข้าวสาร เป็นไกด์เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปใช้บริการร้านอาหาร ห้องพัก ย่านถนนข้าวสาร
ตามหาตัวจนเจอนำตัวมาสอบปากคำช่วงแรกให้การปฏิเสธ แต่ตรวจสอบพบเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากวีซ่าขาดมา 2 ปี
แต่ปากแข็งได้ไม่นาน ในที่สุดยอมจำนนต่อหลักฐานชิ้นสำคัญ หลัง จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือและรอยลาย เท้า รวมทั้งตรวจ ดีเอ็นเอคราบ เลือดที่คนร้าย ล้างในห้องน้ำนำไปเปรียบเทียบกับนายจัสติน แล้วผล ออกมาตรงกันทั้งหมด จึงยอมเปิดปากรับสิ้น
นายจัสติน ให้ การว่าเคยเป็นอดีตนาวิกโยธินสหรัฐแล้วถูกปลดประจำการ ได้มารู้จัก นายเจมชีด ชอร์ ซึ่งมีพฤติกรรมชอบเพศเดียวกันทางเว็บไซต์จากนั้นติดต่อกันเรื่อยมา กระทั่ง นายเจมชีด ชอร์ มาเมืองไทยจึงนัดให้ไปพบที่ห้อง
ฝรั่งนักฆ่าอ้างว่าคนตายจะขอร่วมเพศทางทวารหนัก แต่ไม่ยอมจึงเกิดทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน แล้วคนตายใช้มีดพับฟันที่แขนซ้ายก่อน จึงต่อสู้แย่งมีดมาได้แล้วจ้วงแทงไม่ยั้งก่อนลักทรัพย์สินมีค่าต่างๆ หลบหนี
แต่พ้นเงื้อมมือกฎหมายไม่นานก็เสร็จตำรวจไทย