เผา4รร.ปัตตานีบึ้มเก๊หลายอำเภอ

"อาก้ากราดยิงชาวบ้าน ประกบยิง ตชด."


ทั้ง 3 จังหวัดภาคใต้ยังวุ่นหนัก ที่นราธิวาส ลอบซุกบึ้มร้านค้าตลาดยี่งอ โชคดีเจอก่อน กู้สำเร็จหวิดระเบิดเละ อาก้ากราดยิงดับชาวบ้านบาเจาะ ด้านยะลา ประกบยิงตชด.บาดเจ็บ ยิงถล่มบ้านเผาซ้ำวอดทั้งหลัง ขณะที่ปัตตานีหนักสุด คนร้ายบุกวางเพลิง 4 โรงเรียน เผายางรถ ตัดต้นไม้ขวางถนน วางระเบิดปลอมป่วนหลายอำเภอ ล่อหลอกเจ้าหน้าที่จนวุ่นวายทั้งวัน ส่วนครม.เห็นชอบมาตรการช่วยภาคธุรกิจเขตพิเศษเศรษฐกิจภาคใต้ เป็นเวลา 3 ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30 เหลือ 3 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งภาษีธุรกิจ และลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการค้า

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 19 ธ.ค. พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.นราธิวาส หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รับแจ้งจาก น.อ.มารุต สัสดีพันธุ์ ผบ.ฉก.32 อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ว่าพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องสภาพพร้อมทำงาน ซุกซ่อนไว้ภายในร้านจำหน่ายเครื่องพลาสติก และครัวเรือน ตั้งอยู่ริมถนนเขตเทศบาลตำบลยี่งอ และห่างจาก สภ.อ.ยี่งอ 120 เมตร จึงรุดไปตรวจสอบพบระเบิดแสวงเครื่องหนัก 4 กิโลกรัม และสามารถเก็บกู้ได้สำเร็จ ตรวจสอบภายในมีดินระเบิดไดนาไมต์ ปุ๋ยยูเรีย และสะเก็ดระเบิด โดยตั้งเวลาระเบิดไว้ที่ 12.20 น. คาดมีรัศมีทำลายล้างในระยะ 10 เมตร สอบสวนทราบว่าขณะที่นางสมทรง ปิ่นวิเศษ อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน กำลังขนของขึ้นรถ พบวัตถุต้องสงสัย จึงแจ้งให้ทหารมาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเป็นระเบิด

"เหตุเสียชีวิต 85 ศพ"


ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ศาลนัดโจทก์ คือนายหะยีดิง มะเซ็ง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ไพรวัณ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และพวกรวม 25 คน เป็นผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตในคดีสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.อ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 85 ศพ เพื่อนัดตรวจความพร้อม และชี้พยาน 2 สถาน รวมถึงนัดตรวจพยานหลักฐาน ว่าฝ่ายโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีฟ้องจำเลยหรือไม่อย่างไร โดยฝ่ายจำเลยที่เกี่ยวข้องในคดีประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กรมการปกครอง และจ.นราธิวาส

นางบุษบา ฉิมพลีกานนท์ ตัวแทนสภาทนายความ และทนายโจทก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โจทก์จะยังไม่ยื่นฟ้องศาลในทางเพ่งและอาญากับจำเลยทั้ง 6 แต่จะนัดหมายไกล่เกลี่ยกับกระทรวงกลาโหม เพื่อให้มาพูดคุยและทำข้อตกลง ให้เสียค่าใช้จ่ายในกรณีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่โจทก์ส่วนหนึ่งพิการไม่สามารถประกอบอาชีพได้ โดยในวันที่ 24 ม.ค.2550 จะนัดพบทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยอีกครั้ง เพื่อไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรม

"อาก้ากราดยิงเสียชีวิตคาที่"


เวลา 19.20 น. ร.ต.ท.สุรชัย ขำทับน้ำ ร้อยเวร สภ.อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงที่หน้าบ้านเลขที่ 25 ถนนเพชรเกษม สายนราธิวาส-ปัตตานี บ้านบือเจาะ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ รุดไปที่เกิดเหตุพบศพนายดุสิต เจริญวงศ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่ลำตัวและศีรษะเสียชีวิตคาที่ ตรวจในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า 7 ปลอก สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายดุสิตขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตลาด เมื่อมาถึงหน้าบ้านมีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบกราดยิงด้วยปืนอาก้าเสียชีวิต คาดเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่

ส่วนที่จ.ยะลา เวลา 11.20 น. ร.ต.ท.ปิยวุฒิ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยเวรสภ.อ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งมีผู้ถูกยิงที่ทางเข้าบ้านซาไก หมู่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต รุดไปที่เกิดเหตุพบ ด.ต.อนันต์ แสงจง อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.445 อ.เบตง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ต้นแขนขวา นางกัลยา แววเพ็ชร อายุ 35 ปี และนางงวน ชุนบุญ อายุ 37 ปี บาดเจ็บจากรถล้ม จึงนำส่งร.พ.ธารโต สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสาม กลับจากตลาดนัดธารโต เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงและหลบหนีไป คาดเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่

"เปิดปากรับสารภาพ จ้างวาน 5 พัน"


ด้านร.ต.อ.สุจริต วงษาเกษ สว.สส.สภ.อ.เมืองยะลา เปิดเผยความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดโชว์รูมขายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการจับกุมตัวนายอาลาดิน มะลอ อายุ 26 ปี อยู่ ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และสอบสวนให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ให้กับพรรคพวกซึ่งเป็นชาว จ.ปัตตานี นำวัตถุระเบิดไปวางไว้ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดนำฮั้วจั่นโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ โดยได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท และยังให้การซัดทอดกลุ่มผู้ลอบวางระเบิดอีกหลายคน อยู่ระหว่างติดตามตัว ทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่นายอาลาดินให้การซัดทอด ประกอบด้วย นายอิสมาแอ ปะจู เป็นผู้จัดหาวัตถุระเบิด, นายอาลาดิน สาและ, นายอัสลัน หะมิดุง, นายมะสือดี คาหมี, นายซาลาบูดิง ยูโซ๊ะ, นายโย ไม่ทราบนามสกุล, นายบักมี ไม่ทราบนามสกุล, นายจิ ไม่ทราบนามสกุล, นายมะกาตา ยาเด็ง, นายฟาเดว จิใจ, นายอาแบ ไม่ทราบนามสกุล, นายมานิตย์ ลูดิง, นายอาบูบากา เจ๊ะนิ, นายอาดัม ดือราแม, นายสุริยา แว้ง และพวกอีก 5 คน ที่ยังไม่ทราบชื่อ โดยทั้งหมดประชุมวางแผน มีนายอดุลย์ มูนี อดีตครูสอนศาสนาโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีกบฏอั้งยี่และซ่องโจร ของ สภ.อ.เมืองยะลา เป็นผู้สั่งการ

"ลอบยิง วางเพลิงเผาบ้าน"


โดยก่อนหน้านี้เวลา 21.30 น. วันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงและเผาบ้านเรือนที่บ้านเจาะตีเมาะ หมู่ 6 ต.ละแอ อ.ยะหา รุดไปที่เกิดเหตุพบ นายสง มณีสวัสดิ์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 6 ต.ละแอ อ.ยะหา ถูกยิงเข้าที่ขาขวา และหัวเข่า จึงนำส่งร.พ.ศูนย์ยะลา และตรวจสอบบ้านของนายสงถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ที่นำมาฝากไว้ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน สอบสวนทราบว่าขณะที่นายสงและนางอมร มณีสวัสดิ์ อายุ 65 ปี ภรรยา อยู่ในบ้าน มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่บ้านและเผาซ้ำ นายสงถูกยิง นางอมรวิ่งหนีออกจากบ้าน คาดเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่

ต่อมาเวลา 22.00 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงนายฮาฟิซี มานะ อายุ 15 ปี ที่หน้าโรงเรียนบ้านสาคู หมู่ 4 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ จึงนำส่งร.พ.ศูนย์ยะลา

ด้านจ.ปัตตานี เวลา 03.30 น. พ.ต.ท.นิคม เสือกล้า รองผกก.สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งวางเพลิงโรงเรียนบ้านตูปะ หมู่ 3 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ และเวลาไล่เลี่ยกันมีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านยางแดง หมู่ 8 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ ทำให้อาคารเรียน 2 ชั้น อุปกรณ์การเรียน คอมพิวเตอร์ จานดาวเทียม และสื่อการสอน ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง นอกจากนี้คนร้ายยังโค่นต้นไม้ เผายางรถยนต์ โปรยตะปูเรือใบตามเส้นทางเข้าออกจุดเกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ทัน อาคารเรียนจึงถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง

"หลอกล่อ วางระเบิดปลอม"


ต่อมาเวลา 14.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยที่หน้าโรงเรียนบ้านตันหยง หมู่ 3 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จึงรุดไปตรวจสอบพบเป็นเพียงระเบิดปลอม นอกจากนี้ยังรับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยอีกหลายจุด ที่ถนนสาย 410 ปัตตานี-ยะลา หมู่ 1 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง และที่โรงเรียนบ้านดาลอ หมู่ 3 ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบเป็นระเบิดปลอมเช่นกัน และเวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.มายอ รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารศูนย์สาธิตเพื่อการเกษตร ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.ปานัน อ.มายอ แต่โชคดีเพลิงไม่ลุกลาม ทำให้บานเกล็ดกระจกเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น

เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ยะรัง รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง รุดไปที่เกิดเหตุพบอาคารเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหายบางส่วน เนื่องจากชาวบ้านช่วยกันดับเพลิงได้ทัน และต่อมาเวลา 19.30 น. เกิดเหตุคนร้าย 7 คน สวมหมวกไหมพรมปิดหน้า ลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านบูโกะ หมู่ 5 ต.ประจัน อ.ยะรัง ทำให้อาคารห้องพักครู คอมพิวเตอร์ และโต๊ะเก้าอี้เสียหาย ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 3 นาย รักษาเวรยามอยู่ คนร้ายพยายามจะใช้อาวุธปืนยิง แต่ชรบ.หลบหนีไปก่อน คนร้ายจึงถือโอกาสวางเพลิงและหลบหนีไป

"สั่งตั้ง มาตรการพิเศษ"


วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการพิเศษ เพื่อช่วยภาคธุรกิจในพื้นที่ภาคใต้ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด และ 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2550 ถึงเดือนธ.ค.2552 เป็นเวลา 3 ปี โดยมีมาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนที่เป็นเงินได้จากธุรกิจ ตามมาตรา 40 (7) และ (8) ไม่ต้องนำไปคำนวนภาษี ส่วนด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้ลดภาษีธุรกิจเฉพาะในการขายอสังหาริมทรัพย์จาก 3 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 0.1 เปอร์เซ็นต์ และลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอน และจดทะเบียนจำนอง เหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะลดธรรมเนียมต่างๆ ด้านการค้า ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน ค่าธรรมเนียมขอตรวจเอกสาร และขอสำเนาเอกสาร ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัด ลดลงครึ่งหนึ่งทั้งหมดจากอัตราปกติ สำหรับเบี้ยประกันภัยจากการก่อการร้าย ที่ขึ้นสูงมากระหว่าง 1-2 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลรับที่จะชดเชยในส่วนของเบี้ยประกันที่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เดิมธนาการแห่งประเทศไทยอนุมัติให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอัตรา 1.5 เปอร์เซ็นต์ โดยขยายออกไปอีก 1 ปีแล้วนั้น วันนี้ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบให้เพิ่มพื้นที่ จ.สตูล และ จ.สงขลาอีก 4 อำเภอ คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ลบ 2.75 ส่วนที่ภาคธุรกิจร้องขอเรื่องการให้ความสะดวกเรื่องแรงงานต่างด้าว เพราะภาคธุรกิจหลายแห่งยังมีออร์เดอร์ส่งออกอยู่แต่ขาดแรงงานนั้น ทางกระทรวงแรงงานจะให้ความสะดวกเรื่องแรงงานต่างด้าวในทุกประเด็นเป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดให้แรงงานต่างด้าวเข้าไปทำงานในพื้นที่ 5 จังหวัด

"การอภัยโทษถือเป็นยุทธศาสตร์"


ที่กองบัญชาการทหารบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาภาคใต้ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำงานค่อนข้างชัดเจนในพื้นที่ 3 จังหวัด โดยการเมืองนำการทหารถือเป็นยุทธศาสตร์อย่างหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พูดถึงการอภัยโทษ และขอโทษ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ เพราะปัญหาภาคใต้เกิดจากความไม่เป็นธรรมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการปราบปราม การบริหารการปกครอง

"นายกฯ ประกาศขอโทษ การอภัยโทษถือเป็นยุทธศาสตร์ ตรงนี้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่กลับมาให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ และยุทธศาสตร์อีกอย่าง คือทำให้ต่างชาติยอมรับการทำงานใน 3 จังหวัด การที่กำหนดยุทธศาสตร์ออกไปถือว่าเราได้เปรียบ หมายถึงกำลังชนะทางยุทธศาสตร์ ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบกำลังเสียเปรียบทางยุทธศาสตร์ตรงนี้ ก็จะหันมาใช้ทางด้านยุทธวิธี การที่ออกมาปฏิบัติการรุนแรงมาก เพื่อต้องการให้ประชาชนส่วนใหญ่กลัว เหมือนทางด้านตะวันออกกลางในประเทศอิรัก และอัฟกานิสถาน เขาจะใช้วิธีการตรงนี้ ใช้ความรุนแรงเพื่อสะกดคนส่วนใหญ่ให้อยู่กับที่ การจะให้เขาหยุดหรือไม่คงเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของฝ่ายตรงข้าม" พล.อ.สนธิกล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์