จ่อจับโชว์สยิว ในแคมฟรอก

"เร่งหามาตรการบล็อกเว็บไซด์"


กรณีภาคเอกชนร่วมมือกันเร่งให้รัฐบาลหามาตรการต้านโปรแกรมฮิต แคมฟรอก ที่วัยรุ่นไทยแห่กันดาวน์โหลดไปใช้ในทางผิดๆ ด้วยการนำมาใช้โชว์ และชมการแสดงลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบแก้ไขไม่ถูกทาง อันมาจากกฎหมายไทยที่ล้าสมัยไม่ทันกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมเสนอ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ลงโทษขั้นรุนแรงกับกลุ่มบุคคลที่ใช้อินเตอร์เน็ตในทางผิดๆ รวมถึงขอความร่วมมือจากร้านอินเตอร์เน็ต เพื่อเห็นแก่อนาคตลูกหลาน หยุดส่งเสริมโปรมแกรมหวิว ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงไอซีทีหามาตรการดำเนินการบล็อกเว็บอุจาด พร้อมตรวจสอบหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเร่งด่วน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผบ.สำนักคดีและเทคโนโลยี กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้รับแจ้ง และเฝ้าติดตามพฤติกรรมกลุ่มบุคคลในโปรแกรมดังกล่าวมานาน 2-3 เดือน ทำให้พบว่าคนไทยชอบแสดงโชว์ลามกหรือทำอะไรเกินเลยกว่าประเทศอื่นๆในโลก ทั้งที่โปรแกรมแคมฟรอกประเทศอื่นๆมีกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน สเปน เยอรมนี แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ ใช้บริการกันวันละ 100-150 คนเท่านั้น ต่างจากคนไทยที่แห่เข้าไปใช้บริการกันวันละเป็นพันๆคน แถมยังหมกมุ่นดูกันทั้งวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปสำรวจในแคมฟรอก นอกจากห้องสนทนาที่โชว์ลามกอนาจารแล้ว ห้องสนทนาทั่วไปที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดอันดับ 1-60 กลายเป็นของคนไทยหมด อาทิ ห้องไทยทีน ห้องไทยไลฟ์มิวสิค หลุดโลกคลับ ไทย 24 ชม.ออนไลน์ ไทยไนท์ ไทยสุดตีน เป็นต้น

"ก๊อปปี้ภาพหาหลักฐานเพิ่มเตรียมจับกุม"


ผบ.สำนักคดีและเทคโนโลยีกล่าวต่อว่า เท่าที่ตรวจสอบคนโชว์ และดีเจส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และนักศึกษา ส่วนระดับมัธยมศึกษามีน้อยมาก ตอนนี้ให้ เจ้าหน้าที่ก๊อบปี้ภาพผู้แสดงโชว์ไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบลึกเข้าไปดูถึงไอพี แสดงที่อยู่หรือสถานที่ของผู้ที่ใช้ บริการ รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ เพราะสามารถจับกุมผู้แสดงโชว์ได้ในข้อหาทำลามกอนาจารในที่สาธารณะ ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 287 ขณะนี้อยู่ในขั้นรวบรวมข้อมูลเสนอผู้บังคับบัญชาขออนุมัติให้เป็นคดีพิเศษ หรือรวบรวมหลักฐานส่งให้ตำรวจจับกุม คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ส่วนผู้ผลิตห้องสนทนายังไม่สามารถหาหลักฐาน หรือมีช่องทางกฎหมายให้จับกุมได้

ขณะที่นายเอก วงศ์อนันต์ นักศึกษาปี 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โปรมแกรมแคมฟรอก อันตรายมาก ยิ่งเป็นที่รู้จักเด็กจะพยายามหาวิธีเข้าถึงภาพและข้อมูล ถ้ายังไม่มีการปิดหรือบล็อกไว้ เดาไม่ถูกว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมไทย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้วางเฉย หรือไม่จับกุมตัวผู้กระทำผิดเหตุเพราะเป็นนักศึกษา เนื่องจากกลัวเสียการเรียน เสียอนาคต เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะคนที่ทำรู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด แต่ยังทำ ดังนั้น ควรจับนักศึกษาที่ทำในสิ่งไม่ดีไปลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อคนอื่น รวมไปถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงศึกษาธิการน่าจะมาทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้กระทรวงวัฒนธรรมแก้ปัญหาอยู่เพียงฝ่ายเดียว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์