แฉบิน ลาเดนถูกสังหารขณะไม่มีอาวุธ

 

คมชัดลึก :ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ หรือ CIA ระบุ โอซาม่า บิน ลาเดน ถูกสังหารขณะไม่มีอาวุธ ย้ำสหรัฐไม่บอกปากีสถานเพราะกลัวไปแจ้งเป้าหมายให้รู้ตัว

 นายพาเน็ตต้า กล่าวว่า ได้มีการตัดสินใจกันว่า การร่วมมือใด ๆ กับปากีสถาน อาจเสี่ยงต่อการปฏิบัติภารกิจ เพราะอาจแจ้งให้เป้าหมายรู้ตัว ขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐกำลังหาทางยับยั้งทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดด้วยการปล่อยภาพปลอมศพบิน ลาเดน เพื่อกระตุ้นความโกรธแค้นในหลายส่วนของโลกมุสลิม
 
 ทำเนียบขาว ได้เปิดเผยรายละเอียดของปฏิบัติการจู่โจมและสังหารบิน ลาเดน ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2544 สร้างความดีใจและผ่อนคลายให้กับประชาชนในโลกตะวันตก แต่ไม่ได้ให้เหตุผลว่า ทำไมจึงไม่จับเป็นแทนที่จะจับตาย ทั้ง ๆ ที่บินลาเดน ไม่มีอาวุธ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์กันว่า หน่วยเนวี ซีล ได้รับคำสั่งให้จับตายเท่านั้น ซึ่งหลังเสร็จภารกิจ หน่วยซีลได้แจ้งว่า เจโรนิโม่ อีเคไอเอ หรือ ศัตรูถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการ


นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของบิน ลาเดน ได้พุ่งตัวเข้าหาหน่วยเนวี ซีลคนหนึ่ง และถูกยิงเข้าที่ขา ไม่ได้ถูกสังหาร

ก่อนที่บิน ลาเดนจะถูกยิงเสียชีวิตโดยปราศจากอาวุธ เนื่องจากมีสัญญาณของการต่อสู้ขัดขืน ทั้งที่ได้มีการเตรียมที่จะจับเป็นเขาถ้าเป็นไปได้ ส่วนรายงานว่าที่ว่ามีผู้หญิงเสียชีวิตนั้น เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเกิดขึ้นในช่วงที่มีการยิงต่อสู้กัน แต่นายพาเน็ตต้า ได้ให้ความเห็นเป็นการตอกย้ำว่า ประธานาธิบดีโอบาม่า ได้ไฟเขียวให้สังหารบิน ลาเดน โดยระบุว่า หน่วยซีลมีอำนาจในการสังหาร ภายใต้กฎแห่งการใช้กำลัง หรือ ROE (rules of engagement) ถ้าฝ่ายตรงข้ามยอมให้จับแต่โดยดี และไม่แสดงท่าทีที่เป็นอันตรายก็จะถูกจับเป็น แต่ถ้าขัดขืน หน่วยซีลก็มีอำนาจในการสังหารได้เช่นกัน

 ในช่วง 24 ชั่วโมง ก่อนที่รู้ว่า บิน ลาเดน ไม่มีอาวุธ นายจอห์น เบรนแนน ที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายของประธานาธิบดีโอบาม่า กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสจับเป็นบิน ลาเดน และเขาไม่ได้แสดงท่าทีที่เป็นอันตราย ทางชุดปฏิบัติการพิเศษก็เตรียมพร้อมที่จะทำเช่นนั้น

 สำหรับปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายที่สืบทอดมายาวนาน และประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐครั้งนี้

และข้อเท็จจริงที่ว่า บิน ลาเดน ไม่มีอาวุธนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญอะไรต่อชาวเมริกันที่เขาประกาศสงครามด้วย ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ประกาศว่า เขาต้องตัวบิน ลาเดน ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย และผู้อำนวยการ CIA ในยุคนั้น ก็บอกไว้เช่นกันว่า จะเด็ดหัวบิน ลาเดน ให้ได้

 นายพาเน็ตต้า ยังให้สัมภาษณ์รายการข่าว NBC ไนท์ลีย์ นิวส์ ด้วยว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ยังคงหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จะเผยแพร่ภาพศพของบิน ลาเดน หรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องชั่งใจระหว่างความพยายามจะพิสูจให้โลกเห็นว่า เขาเสียชีวิตแล้ว แต่ก็เสี่ยงที่จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกต่อต้านสหรัฐมากยิ่งขึ้นอีก แต่นายพาเน็ตต้า กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าจะมีปัญหาในการเผยแพร่ภาพของบิน ลาเดน ต่อสาธารณชน

 นายพาเน็ตต้า กล่าวให้สัมภาษณ์ช่อง PBS นิวส์ฮาวร์ ด้วยว่า เขาไม่คิดว่า บิน ลาเดน จะไม่ทันได้พูดกับหน่วยซีลที่ปลิดชีพเขา
 
แต่มีท่าทีที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นอันตราย ทำให้หน่วยซีลต้องยิงเขา หลังจากนั้น หน่วยซีลได้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ในการรวบรวมหลักฐานสำคัญ รวมทั้งฮาร์ด ไดรฟ์ คอมพิวเตอร์ , ดีวีดี และเอกสารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ในด้านข่าวกรอง และ CIA ได้ตั้งทีมพิเศษขึ้นมาตรวจสอบหลักฐานเหล่านี้
การรวบรวมเอกสารหลักฐานจากบุคคลที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้นำระดับสูงสุดขององค์กรก่อการรร้ายอัล ไกดา ถือเป็นโอกาศที่หาได้ยากยิ่งสำหรับหน่วยข่าวกรองสหรัฐ เพราะถ้าผู้ก่อการร้ายในระดับกลางถูกจับ พวกผู้นำระดับสูงขึ้นไปก็อาจมีการแก้ไขและปรับเปลี่ยนแผนการ แต่ถ้าเป็นระดับหัวหน้าใหญ่ถูกจับ ทุกอย่างอาจต้องปรับเปลี่ยนแต่ก็ไม่มีใครรู้แน่นอน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์