สเก็ตช์ภาพมือยิงอดีตนายกเลาขวัญพี่เหยื่อวอนขอให้จบ

"สั่งสเก็ตภาพมือยิง"


เรียกสอบผู้เห็นเหตุการณ์ "สเก็ตช์ภาพ" มือยิงอดีตนายกเล็กเลาขวัญ ประสานจังหวัดใกล้เคียงหาเบาะแสซุ้มมือปืน-รถปิกอัพต้องสงสัย พี่สาวผู้ตายวอน "ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบ" ประกาศขอยุติบทบาททางการเมือง

เหตุการณ์คนร้ายลอบยิงนายมานิตย์ หรือกาจภูมิ เพิ่มพูน อายุ 46 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และกำลังรอประกาศรับรองเป็นสมาชิกเทศบาลตำบลเลาขวัญ หลังชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณสวนหย่อมข้างสำนักงานเทศบาลตำบลเลาขวัญ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2549

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ต.อ.วรภัทร์ วัฒนวิศาล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฝ่ายปราบปราม เปิดเผยถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนว่า ขณะนี้ตำรวจเรียกสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์และสเก็ตช์ภาพของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ส่วนยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ประสานไปยังตำรวจชุดสืบสวนทั้ง สภ.อ.เลาขวัญ และชุดสืบสวนจังหวัด รวมไปถึงตำรวจภูธรภาค 7 ให้ช่วยติดตามสืบสวนหาข่าวในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและรถกระบะต้องสงสัยที่ตรงตามลักษณะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจพุ่งเป้าไปยังซุ้มมือปืนต่างๆ เพราะเชื่อว่าคงจะมีความคืบหน้าในเร็วๆ นี้

"เชื่อคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่"


ด้าน พ.ต.อ.ภาสกร เกตุอำนวยกุล ผกก.สภ.อ.เลาขวัญ กล่าวว่า ส่งชุดสายสืบสวนไปหาข่าวตามกลุ่มต่างๆ ที่คาดว่าจะพัวพันในคดีนี้ ทั้งกลุ่มนักการเมืองและซุ้มมือปืน ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้ ตนเชื่อว่าคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะขณะก่อเหตุไม่มีการคลุมหน้าตา และไม่เกรงคนจะจำหน้าตาได้ ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีออกไปทาง อ.สระกระโจม และมุ่งหน้าสู่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ล่าสุดชุดสืบสวนจังหวัด และสืบสวนภาค โดยมี พ.ต.อ.เรวัต กลิ่นเกสร เป็นหัวหน้าชุด เร่งติดตามรถคันดังกล่าว

ทั้งนี้ ตนทำงานไม่หนักใจในการทำคดีดังกล่าว เพราะรู้แน่ชัดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการเมือง ส่วนกรณีที่มีผู้โทรศัพท์มาหาผู้ตายก่อนเกิดเหตุสังหารนั้น พ.ต.ท.ยุทธพิชัย มีสายมงคล หน.สืบจังหวัด กำลังติดตามผล แต่ก็ต้องใช้เวลา เนื่องจากมีสายเข้ามามากมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาตินำศพของนายมานิตย์จากสถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาประกอบพิธีรดน้ำศพและตั้งสวดพระอภิธรรมที่ศาลาอเนกประสงค์ ณ วัดเลาขวัญ หมู่ 1 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เป็นเวลา 7 วัน ต่อมาเวลา 13.30 น. มีพิธีรดน้ำศพ โดยมีบิดาและมารดาพร้อมทั้งญาติพี่น้องมาร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอกจากนี้ ยังมีประชาชนกว่า 100 คน เดินทางมาร่วมไว้อาลัย ส่วนบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

"ญาติขอให้จบแค่นี้"


นายเจริญ เพิ่มพูน อายุ 79 ปี บิดาผู้ตายไม่ยอมแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงนางพิมพ์ เพิ่มพูน อายุ 52 ปี พี่สาวคนโตของนายมานิตย์ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้จบลงไปแล้ว น้องชายไปสบายแล้ว ก็ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบ ตนและน้องๆ ที่เหลือจะไม่ติดใจใดๆ ทั้งสิ้น จะขอทำมาหากินกันไปตามมีตามเกิด น้องชายที่ตายไปก็คิดเสียว่าเขาไปอยู่เมืองนอก ถึงเวลาเขาแล้วที่เขาต้องจากไป เขาเป็นผู้ที่รักงานการเมืองมาก ขอให้เลิกแล้วต่อกัน สิ้นสุดกันที

ด้านญาติของนายมานิตย์คนหนึ่ง กล่าวว่า ในส่วนของเครือญาตินั้นได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะไม่มีการกระทำการใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ อ.เลาขวัญอีกต่อไป จะไม่มีใครเข้าไปสานต่อการเมืองอย่างเด็ดขาด โดยพี่น้องทุกคนจะไปประกอบอาชีพกันตามปกติ ไม่ติดใจใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากต้องการให้ทุกอย่างจบ ส่วนคดีปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไม่เข้าไปกดดันใดๆ ทั้งสิ้น คงปล่อยให้แต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้น

"สิ่งที่ครอบครัวมีความภาคภูมิใจคือ เราต่างคิดว่านายมานิตย์รักเทศบาลเลาขวัญเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเขาเสียไปก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีและไปตามความพอใจของเขาเอง พวกเราคิดว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย ใครมีหน้าที่อะไรก็ปล่อยให้เขาดำเนินการไป ในกรณีที่หลายฝ่ายพยายามจะผูกเรื่องให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองนั้น ตรงนี้ครอบครัวของเรารู้สึกไม่สบายใจ ญาติรายเดิม กล่าว

"ชาวบ้านไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีก"


ญาตินายมานิตย์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้ทุกอย่างยุติ จึงขอบอกผ่านสื่อว่า นายมานิตย์มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากและทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการพัฒนาเทศบาลตำบลเลาขวัญ วันนี้เขาไปสงบแล้ว ครอบครัวเครือญาติรู้สึกเศร้าโศกและเสียใจ แต่ก็อยากขออยู่อย่างสงบเช่นกัน และจะไม่มีเหตุการณ์ใดมาเป็นเงื่อนไขทำให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่อีกต่อไป

ขณะที่ นายประทีป หรือ กำนันแปะ คุ้มภัย อายุ 62 ปี อดีตกำนันตำบลเลาขวัญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญ หมายเลข 1 ที่มีการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่นายมานิตย์ให้การสนับสนุน กล่าวว่า ก่อนนายมานิตย์จะมาถึงจุดจบ ยังให้คนมาช่วยตนแจกใบปลิวหาเสียงกว่า 100 คน ตนมองว่าผู้ตายเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่และได้มีโอกาสมาบริหารงานตรงนี้ ก็ได้สร้างผลงานเอาไว้มากมายที่น่าชื่นชม ซึ่งการเสียชีวิตของนายมานิตย์ในครั้งนี้ ตนมีความรู้สึกหดหู่อยากจะให้เลิกแล้วต่อกัน อย่าได้จองเวรกันอีกต่อไปเลย ชาวบ้านไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่อยากเห็นน้ำตานองเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนครั้งนี้อีกต่อไป เลือกตั้งที่นี่บ่อยครั้งมาก และชาวบ้านไม่อยากจะให้มีการเลือกตั้งที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น ด้วยเหตุการณ์ทำนองนี้ ชาวบ้านเบื่อประชาธิปไตยแบบนี้กันเต็มทน

"ผมอยากให้สถานการณ์กลับคืนมาเหมือนเดิม เพื่อผู้คนโดยทั่วไปจะได้มองภาพพจน์ของคนเลาขวัญที่ดีขึ้น มีทัศนคติต่อชาวเลาขวัญในทางที่ดี เพราะตอนนี้คนทั่วไปไม่อยากจะเหยียบย่างเข้ามา ต.เลาขวัญแล้ว ขอให้พอกันที" นายประทีป กล่าว

"ผลการเลือกตั้ง"


ส่วนบรรยากาศในการเลือกตั้งซ่อมนายกเทศมนตรีตำบลเลาขวัญ แทนนางสุพิชญาณ์ ลีอารีย์กุล อายุ 44 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักพร้อมสามีเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ประชาชนเข้าคูหาใช้สิทธิบางตา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ สภ.อ.เลาขวัญ หน่วย นปพ.กาญจนบุรี และตำรวจจากสืบสวน บก.ตร.กจ. และสืบสวนภาค 7 จำนวน 100 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ นายประทีป คุ้มภัย ผู้สมัครหมายเลข 1 ที่นายมานิตย์เป็นฝ่ายให้การสนับสนุนนั้น มีแนวโน้มได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เฉือนคู่แข่งคนสำคัญอย่างนางรัตติกาล พราหมนะโชติ ผู้สมัครหมายเลข 2 ซึ่งมีดีกรีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเลาขวัญในสมัยที่นางสุพิชญาณ์ เป็นนายกเทศมนตรี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์