เมื่อ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวจ.สุราษฎร์ธานี รายงานว่า สภาพน้ำท่วมในหลายพื้นที่เริ่มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ
แต่พบว่ายังมีพื้นที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำตาปี ท้องที่หมู่ 1-5 ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร บ้านเรือนชาวบ้านและถนนจมอยู่ใต้น้ำ Iรวมทั้งตลอดริมแม่น้ำตาปีในพื้น อ.พุนพิน อ.เมืองสุราษฎร์ มีบ้านอยู่ที่ลุ่มมีน้ำท่วมสูงยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ และที่อ.ท่าฉาง ระดับน้ำท่วมลดลง แต่ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาดยังกลับเข้าบ้านไม่ได้
ส่วนเส้นทางจากอ.เมืองไปยังอ.พุนพิน ออกสู่ทางถนนทางหลวงเอเชีย 41 ไปยัง จ.ชุมพรและขึ้นกรุงเทพฯได้แล้ว ทั้งถนนสาย 417 สนามบิน - ตัวเมืองสุราษฎร์ธานีและถนนสุราษฎร์-พุนพินไปออกที่สามแยกหนองขรี
วันเดียวกันนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้นายวิสูตร อินทรกำเนิด ผบ.ร้อย อส.จ.สุราษฎร์ธานีที่ 1
ระดมกำลังร่วมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีและเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาล ปราณบุรี และชาวบ้าน 30 คนนำเรือท้องแบนและเรือหางยาวพร้อมเครื่องปั่นไฟ ออกตามล่าจระเข้เลี้ยงที่หลุดออกมาจำนวนมากโดยใช้กระแสไฟกระตุ้นให้จระเข้โผล่ขึ้นเหนือน้ำในพื้นที่ ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม ต.ตะปาน ต.ท่าโรงช้าง, ต.กรูด และ ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน หลังชาวบ้านแจ้งพบจระเข้ออกอาละวาดไล่กัดกินเป็ดไก่และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเข้าไปที่ หมู่ 4 ต.ท่าสะท้อน พบจระเข้กำลังไล่กัดเป็ดในน้ำริมถนนเอเชียสาย 41 ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือได้ดำน้ำหนีไปได้
นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า
สรุปความเสียหายล่าสุดทั้งจังหวัดมีพื้นที่ 19 อำเภอ 129 ตำบล 1,052 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 120,457 ครัวเรือน 446,583 คน เสียชีวิต 11 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 318,757 ไร่ ถนน 430 สาย สะพาน/คอสะพาน 88 แห่ง วัด 84 แห่ง โรงเรียน 153 แห่ง ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ ขณะที่มูลค่าความเสียหายล่าสุดประมาณ 4,230 ล้านบาท