ตร.จับอีก79พม่าซุกใต้กองเสื้อผ้า

ขบวนการค้ามนุษย์ภาคเหนือยังไม่หยุด พาพม่าซ่อนในรถคอนเทนเนอร์เสื้อผ้าวางทับอำพราง ตำรวจตากตาไวพบพิรุธตรวจค้นพบ 79 คน คนขับสารภาพรับจ้างหัวละ 4,000 บาท นำส่งโรงงานและเป็นลูกเรือประมง ส่วนชลบุรีตรวจจับคนงานก่อสร้างพม่าอีก 28 คน

การตรวจจับคนงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ในพื้นที่ จ.ตากและชลบุรี รวบชาวพม่าได้ทั้งหมด 107 คน รายแรกเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ธันวาคม ที่ สภ.อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.ท.อดิศร นนทรี ผบช.ภ.6 และ พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ประสาร บุญยปาน ผบก.ภ.จว.ตาก เดินทางไปสอบสวนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่ตรวจจับเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะลักลอบเข้าเมือง มีทั้งชายฉกรรจ์ หญิงวัยทำงาน และเด็กโต เด็กเล็กกว่า 20 คน แยกเป็นชาย 33 คน หญิง 46 คน

พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ขณะที่ พ.ต.ท.รพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผกก.สภ.ต.พะวอ ร่วมกับ พ.ต.ท.จิรศักดิ์ มหึเมือง หัวหน้าศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ตั้งด่านตรวจหน้า สภ.ต.พะวอ พบรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 81-9098 นครสวรรค์ ดัดแปลงเป็นรถคอนเทนเนอร์ส่งเสื้อผ้าขับผ่านมา จึงส่งสัญญาณขอตรวจค้น ทราบชื่อคนขับคือ นายเพชรรัตน์ ภูผา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 5 ต.ห้วยแก้ว กิ่ง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร

ระหว่างการตรวจค้นคนขับมีท่าทีพิรุธ จึงขอตรวจค้นในตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อเปิดประตูตรวจสอบพบเสื้อผ้าส่งออกจำนวนมากวางอย่างเป็นระเบียบ แต่เมื่อรื้อกองเสื้อผ้าออกพบว่าด้านล่างมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในลักษณะเบียดเสียด ผู้ชายส่วนใหญ่ถอดเสื้อเพราะอากาศร้อนมาก จึงควบคุมตัวคนขับมาสอบสวน ซึ่งให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนางมะไข่ ชาวพม่า ใน จ.เมียวดี ประเทศพม่า ให้นำแรงงานทั้งหมดมาส่งที่บ้านแม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก ในราคาหัวละ 4,000 บาท จากนั้นจะมีรถมารับช่วงต่อไปยังจังหวัดชั้นในอีกครั้ง

พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า จะสั่งการให้ตำรวจเข้มงวดทำประวัติและจดทะเบียนรถบรรทุกสินค้าประเภทเสื้อผ้า และอาหารทะเล ที่วิ่งผ่านเข้า-ออก อ.แม่สอด กว่า 100 คัน เพื่อป้องกันรถดัดแปลงใช้ขนแรงงานเถื่อน เช่นเดียวกับรถยนต์ของนาวาเอกเทวราช ที่ค้นพบที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นรถยนต์ดัดแปลงในลักษณะขนแรงงานต่างด้าว

นายมะติ่น ขิ่น แรงงานพม่าใน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า มีแรงงานพม่ากว่า 1 หมื่นคน พยายามจะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในช่วงว่างเว้นจากการทำนา โดยเป้าหมายอยู่ที่งานประมง และกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ แรงงานพม่าไม่กลัวถูกจับเพราะไม่มีโทษ มีเพียงผลักดันกลับประเทศเท่านั้น เมื่อมีจังหวะก็จะลักลอบเข้ามาใหม่

ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงทางภาคเหนือ ระบุว่า นายหน้าขบวนการค้ามนุษย์จากประเทศพม่ายังคงเป็นชุดเดิม เช่น นาง ว. น้องสาวนายทหารสังกัดกองพลน้อย 999 กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงดีเคบีเอ นาย อ. ใน อ.ท่าสองยาง นาย ส. บ้านแม่พลู อ.ท่าสองยาง นายป่าน้อย ชาวพม่า ที่มีบ้านในบ้านแม่สะลิดหลวง อ.ท่าสองยาง และร้อยโทเคซา มิ นายทหารกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงเคเอ็นยู สังกัดกองพัน 21 กองพลน้อยที่ 7

การว่าจ้างต้องจ่ายเงินให้ขบวนการค้ามนุษย์หัวละ 5,000-8,000 บาท จ่ายครึ่งหนึ่งในประเทศพม่า ส่วนที่เหลือจ่ายเมื่อได้ทำงานแล้ว การเดินทางจะใช้บริการของนายพาก่อ ชาวพม่า ไปส่งให้นาย ก. ที่ อ.ท่าสองยาง นายปาละ บ้านแม่สะลิด นายเกล่อทอ บ้านนาเจริญสุข นายจ่อละมี นาย ส. และนาย พ. ลูกชายผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ท่าสองยาง เพื่อรอการขนย้ายต่อไป

ส่วนอีกรายที่ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม พ.ต.อ.สุทิน พ่วงทรัพย์ ผกก.สภ.ต.พัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี รับแจ้งว่ามีคนต่างด้าวลักลอบอาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ร้างไม่มีชื่อ ในซอยเทพประสิทธิ์ 7 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ

พบชาวพม่าทั้งชายและหญิงทั้งหมด 28 คน และมีเด็กที่เกิดจากหญิงพม่าแต่คลอดในประเทศไทยอีก 1 คน จากการสอบสวนแจ้งว่า นายสมศักดิ์พาจากชายแดนมาทำงานรับจ้างที่พัทยา ได้ค่าจ้างวันละ 120 บาท และบอกว่ากำลังทำใบอนุญาตทำงานให้ หลังสอบสวนตำรวจได้ประสาน ตม.เพื่อผลักดันแรงงานเหล่านี้กลับบ้านเกิดต่อไป