วันนี้ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคใต้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รัฐมนตรีและส.ส.ในพื้นที่ ลงไปดูแลและนำข้อมูลมารายงานต่อฝ่ายที่มีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างมาก เพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อน เนื่องจากตามปกติน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาได้มีการเตือนประชาชนล่วงหน้าก่อน ทำให้มีการเตรียมความพร้อม แต่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง หากมีการเตือนล่วงหน้าประชาชนคงไม่เชื่อ เนื่องจากในช่วงเดือนมี.ค.นั้น ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน
คิวต่อไประวังฝั่งอันดามัน
ทางด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตาม การช่วยเหลือผู้ประสบภัย (คชอ.)กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ 5 จังหวัดในภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ตั้งแต่จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง และพัทลุง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือรายงานสภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดการณ์ว่าปัญหาดังกล่าวจะมีไปถึงวันที่ 30 มี.ค.นี้ และหย่อมความกดอากาศจะเคลื่อนตัวจากฝั่งอ่าวไทยไปฝั่งทะเลอันดามัน ดังนั้นคชอ.ขอให้จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน คือ จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต ต้องเตรียมรับสถานการณ์ด้วย
ห่วง“ท้องถิ่น”เงินหมด
ส่วนปัญหาน้ำท่วมสนามบินจ.นครศรีธรรมราชนั้น นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้ยืนยันในที่ประชุมครม.ว่าได้ส่งคนไปดูแล้ว ขณะนี้น้ำเริ่มลดลง จากนั้นจะเริ่มเข้าไปดูโครงสร้างได้ แต่ที่กังวลคือขณะนี้ฝนยังไม่หยุดตก และมีการคาดหมายว่าจะเกิดสถานการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 มี.ค.54 โดยสิ่งที่เสนอครม.ตรงกันทุกหน่วยงานคือตอนนี้ท้องถิ่นมีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะหมดไปกับการช่วยเหลือในครั้งที่แล้ว จึงได้เสนอว่า 1.ให้นำเงินทดรองราชการของผู้ว่าราชการจังหวัด แบกรับภาระทั้งหมด และถ้าไม่พอเสนอเพิ่มได้ 2.ในวันที่ 29 มี.ค.54 ตนจะเรียกประชุมและอนุมัติเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อไปจัดทำถุงยังชีพส่งไปช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น 2 หมื่นชุด 3.ให้ไปสำรวจภาคเอกชนที่เคยช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากมีเงินและของสนับสนุนเหลืออยู่ก็จะเกลี่ยไปช่วย
จ่ายเยียวยาต้องรอก่อน
นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครอบครัวละ 5 พันบาทนั้น ยังไม่มีมติให้จ่าย เพราะเหตุเพิ่งเกิด 2-3 วัน ต้องรอประเมินความเสียหายก่อน ครั้งที่แล้วที่อนุมัติครอบครัวละ 5 พันบาท เพราะน้ำท่วมถึง 68 จังหวัด และกินระยะเวลานานเกิน 7 วันขึ้นไป
ขณะที่นายจาตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของสำนักนายกรัฐมนตรี เหลืออยู่ประมาณ 80 ล้านบาท สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ได้ทันที
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
