จับไม่หมด! กองปราบจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจกองปราบ ลุยจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งชาวแคนนาดา  ฟิลิปปินส์  ตะครุบตัวยกแก๊งย่านสุขุมวิท 71

วันนี้ 16 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จารุวัฒน์ พาหุมันโต พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. และนายเอริค เกรนอน ตำรวจแคนนาดา ประจำสถานเอกอัครราชทูตแคนนาดา ประจำประเทศไทย แถลงข่าวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นชาวแคนนาดา 4 คน และฟิลิปปินส์ 3 คน ได้แก่ นายเกรกอรี่ โจเซฟ เคอร์รี่  อายุ 65 ปี นายแซนดี้ วีนิค อายุ 52 ปี นายการ์ฟิล แรมซี่ อายุ 52 ปี นายแดเนียล นาทาน โฮท  อายุ 37 ปี น.ส.ปรีมาลิน ฟีบี  อายุ 31 ปี น.ส.ชารอน เกอร์ซาวา อายุ 31 ปี และนายออกุสโต คากายาน อายุ 35 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อเชื่อมโทรศัพท์ และเอกสารอีกเป็นจำนวนมาก โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 82/60 หมู่บ้านโนเบิล ซ.ปรีดีพนมยงค์ 43 ถ.สุขุมวิท 71 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
            
สอบสวนทราบว่า แก๊งนี้นายเกรกอรี่ และนายแซนดี้ เป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนที่เหลือถูกจ้างมาทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ได้เงินเดือนๆละ 20,000 บาท พร้อมค่าตอบแทน 2-3 เปอร์เซ็นต์จากเงินที่หลอกเหยื่อมาได้ ส่วนเหยื่อนั้นจะเป็นชาวยุโรป และอเมริกาใต้ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ และบัญชีธนาคาร 

อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีได้เพียงเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยแจ้งข้อหา นายเกรกอรี่ และนายแซนดี้ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตให้ทำงานเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เหลือถูกแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปพลัดฟ้องฝากขังครั้งแรกในวันที่ 17 มีนาคมนี้ 

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้เปิดคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อในประเทศแคนนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์มาปีกว่าโดยหลอกเหยื่อให้นำเงินมาร่วมลงทุนเล่นหุ้นโดยอ้างผลตอบแทนดี ทั้งนี้พฤติการณ์กระทำผิดจะต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนหรือไต้หวันที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกเหยื่อให้โอนเงินผ่านเอทีเอ็ม ส่วนการใช้เครือข่ายโทรศัพท์ก็ต่างกันโดยแก๊งนี้ใช้โทรศัพท์พื้นฐานไม่ใช่ระบบ VOIP แต่ก็มีการผ่านโปรแกรมบางอย่างในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำให้โทรไปยังต่างประเทศได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้กองปราบปราม ร่วมกับ บก.ปอท.และบก.ปอศ. ประสานตำรวจแคนนาดาสอบสวนขยายผลต่อไป