ตำรวจเชียงราย บุกรวบฆาตกรโหด- ฆ่าเศรษฐินีสกุลดัง ปี เจ้าของรีสอร์ท
วันนี้ 8 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม รอง ผบก.ภ.จ.เชียงราย และ พ.ต.อ.ภพกร คูณเจริญสุข ผกก.สภ.เชียงแสน พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้นำตัวนายเหลา ไม่มีนามสกุล อายุ 18 ปี ชาวไทยใหญ่ อาศัยอยู่เมืองกุนเฮง ประเทศพม่า มาทำแผนประกอบคำสารภาพในคดี ฆ่า นางสุรีย์ลักษณ์ ชุมสาย ณ อยุธยา หรือ “คุณเล็ก” อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านรถไฟรีสอร์ท ริมถนนสายระหว่าง อ.เชียงแสน - อ.เชียงของ เลขที่ 155 หมู่ 9 ต.เวียง อ.เชียงแสน และหลบหนีหายเข้ากลีบเมฆไป พ.ต.อ.จรัญฌิ์ กล่าวว่า เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกชัย ไชยยะ สว.สส. สภ.เชียงแสน พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย เลขที่ 391/2553 ลงวันที่ 2 พ.ย. 2553 “ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา” เข้าจับกุมนายเหลา ขณะหลบหนีมาทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ในโรงงานทำอิฐแห่งหนึ่งใน ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จับได้ในขณะที่ผู้ต้องหาเดินตามลำพังอยู่บนถนนในหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านแม่ฮ่าง ต.แม่สาว จึงควบคุมตัวนำกลับมาสอบสวน และให้การรับว่าได้กระทำผิดจริง จึงนำตัวมาทำแผนเพื่อประกอบคำสารภาพ
พ.ต.อ.จรัญฌิ์ กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 27 ต.ค. 53 มีผู้ไปพบศพนางสุรีย์ลักษณ์ เจ้าของรีสอร์ทที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นภรรยาของ ม.ล.บท ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตเอกอัครทูตประจำอยู่หลายประเทศ พบศพที่ซอกรั้วหลังรีสอร์ท ในสภาพนอนหงายจมกองเลือด อยู่ในชุดนอนสีชมพู ที่ศีรษะ หน้าผาก ใบหน้า และแขน มีร่องรอยถูกของมีคมทั้งฟันและแทง จนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ตรวจสอบไม่พบร่องรอยถูกข่มขืน ทรัพย์สินติดตัวยังอยู่ครบ ที่เกิดเหตุพบเสียมทำสวน และมีดพร้าเปื้อนเลือดที่ฆาตกรโหดทิ้งไว้ ภายหลังเกิดเหตุ นายเหลา ซึงเป็นคนงานชาวพม่าได้หายตัว และจากการสอบสวน มีผู้พบเห็นนายเหลาได้รับบาดเจ็บที่มือ และไปขอเงินจากคุณแม่ของคนตายเพื่อไปทำแผล จากนั้นก็หายตัวไป นายเหลาให้การรับสารภาพว่า กลางดึกคืนเกิดเหตุ พบคนตายเดินถือเสียมตรวจตราไปตามรอบรีสอร์ท ตนถูกดุด่าและถูกคนตายใช้เสียมตี ที่ใช้มือปิดป้องจนได้รับบาดเจ็บ และได้แย่งเสียมกลับมาทุบตีกลับ รวมทั้งใช้มีดพร้าทั้งฟันและแทงจนเสียชีวิต ก่อนลากศพมาทิ้งที่ซอกรั้วเพื่อซุกซ่อนดังกล่าว พ.ต.อ.จรัญฌิ์ กล่าวต่อว่า เป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ให้ชุดสืบสวนติดตามออกจับกุมผู้ก่อเหตุมาโดยตลอด