พบศพสองแม่ลูกยอมอดข้าว-น้ำจนตาย ตามความเชื่อ ตายแล้วได้บุญ

ลูกสาวมีอาการทางประสาท ระแวงคนทำของไม่ยอมกินอาหารที่ได้รับบริจาคช่วงน้ำท่วม พบรอบบ้านมีป้ายติดข้อความ"พิสุทธิจิตสถาน" พร้อมป้ายคำกลอนหลายแผ่นชี้ให้เห็นว่าการตายคือการทำบุญ

สลดสองแม่ลูกยอดอดข้าวตายแล้วเชื่อว่าจะได้บุญครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม พ.ต.ต.วิศิษฐ์ ท่านมุข สว.เวรสภ.อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากนายอำนาจ สิทถัตถพงษ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านพักอยู่ที่ หมู่ 1 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า นางทวี แซ่โง้ว อายุ 80 ปี และนางประณีต เกตุแก้ว อายุ 50 ปี ทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน ได้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 39 หมู่ 3 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของตนโดยไม่ทราบสาเหตุ

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรัชชัย คงรอต ผกก.สภ.อ.เสนา พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ฉายแสงรัตน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมบัติ ชูชัยยะ รองผกก.ป.และกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านทรงไทยแฝดยกพื้นสูง อยู่ใกล้กับวัดโคกเสือ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยป่าและต้นไม้ทึบ มองจากนอกบ้านเห็นแค่หลังคาดูน่ากลัว ส่วนประตูบ้านถูกล็อคกุญแจทั้งหมดหมด ยกเว้นบริเวณทางขึ้น และยังพบว่ามีรอยน้ำท่วมเกือบถึงพื้นบ้าน

ตำรวจจึงได้ขึ้นไปตรวจสอบบนบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบศพ น.ส.ประณีต นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพศพเกือบแห้ง ส่งกลิ่นเหม็นเน่ามีผ้าคลุมอยู่ ห่างออกมาที่เรือนไทยกลางบ้านพบศพ นางทวี ผู้เป็นแม่นอนอยู่ลักษณะคล้ายกัน สภาพศพเน่าจนเกือบแห้งเช่นกัน ภายในบ้านไม่มีร่องรอยรื้อค้นหรือการต่อสู้แต่อย่างใด

จากการตรวจสอบของแพทย์ไม่พบร่องรอยแผลใดๆ จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำไปส่งให้ทางนิติวิทยาศาสตร์ทำการชันสูตร นอกจากนี้บริเวณโดยรอบบ้านมีป้ายติดข้อความว่า "พิสุทธิจิตสถาน" และยังมีป้ายคำกลอนหลายแผ่นที่ติดเอาไว้ลักษณะชี้ให้เห็นว่าการตายคือ การทำบุญ เช่น นอนนิ่งๆ เป็นศพเน่า เนื้อของเราอร่อยนี่ ศีลพระอีกศีลชีปลิดชีวีเราเดินบุญ และข้อความว่า อยากทำบุญเราต้องตายเป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายอำนาจ ทราบว่า มีบ้านหลายหลังและทุกหลังมักจะเปิดเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมภาวนาจิต เมื่อประมาณ 10 ปีก่อนได้ไปร่วมปฎิบัติธรรมที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบกับ น.ส.ประณีต ซึ่งเคยเป็นครูอยู่ จ.พิษณุโลก และได้เดินทางไปร่วมปฎิบัติธรรมด้วยกันหลายครั้ง จนกระทั่งตามมาปฎิบัติธรรมที่บ้านตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน ตนจึงได้ให้อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเกิดเหตุและให้ช่วยดูแลบ้านโดย น.ส.ประณีต ขอพานางทวี ผู้เป็นแม่มาอาศัยอยู่ด้วย

นายอำนาจ เล่าต่อไปว่า น.ส.ประณีต มีอาการทางประสาท มักจะคุยถึงเรื่องเห็นคนมาเดินวนเวียนในบ้าน และพูดถึงการตายที่จะทำให้ได้บุญมาก เพราะจะไปพบพระศาสดา ล่าสุดทางอำเภอได้นำของมาแจกเมื่อ 20 ตุลาคม วันที่น้ำท่วม แต่น.ส.ประณีต ไม่ยอมกินของบริจาคน้ำท่วม โดยอ้างกับตนว่า หากกินอาหารแจกแล้วอาจจะถูกคุณไสย์ หรือมีคนเอาของไม่ดีมาใส่ให้กิน

หลังจากนั้นก็ไม่พบกับสองแม่ลูกอีกเลย แต่ได้ส่งเงินเข้าทางบัญชีธนาคารให้สองแม่ลูกได้ใช้จ่าย กระทั่งตนได้โทรศัพท์มาหาน.ส.ประณีต แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เดินทางมาหาที่บ้านหลังดังกล่าวและได้พบว่าเสียชีวิตไปแล้วทั้งสองคน

นายอำนาจ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่น่าสงสัยทั้งคู่ไม่มีอาหารรับประทานในช่วงระหว่างเกิดน้ำท่วมขังนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะได้สำรวจดูโอ่งเก็บข้าวสารก็ยังพบว่ามีอาหารข้าวสารอยุ่ รวมไปถึงยังมีอาหารแห้งและอื่นๆ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง จึงเชื่อว่าการเสียชีวิตของคนทั้งคู่น่าจะมาจากสาเหตุที่ไม่ยอมรับประทานอาหาร จนเสียชีวิตตามความเชื่อที่ว่า ตายไปแล้วจะได้บุญ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องรอผลพิสูจน์เพื่อสรุปการตายต่อไป

ผุ้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยัง รพ.เสนา และรพ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจรายชื่อผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาสภาพจิตในช่วงน้ำท่วม ก็ไม่พบชื่อของทั้งคู่ สำหรับสองแม่ลูกคู่นี้โดยปกติจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน ประกอบกับบ้านหลังดังกล่าว ปลูกอยู่ห่างจากเพื่อนบ้าน