รวบหนุ่มแก๊งแฮ็กข้อมูลลูกค้าแบงก์

ตำรวจจับหนุ่มแก๊งแฮ็กข้อมูล  ลูกค้าแบงก์มีข้อมูลลูกค้ากว่า 5 หมื่นชื่อ

วันนี้ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.สุพล หอมชื่นชม ผบก.ปอท. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผบก.ปอศ.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายกฤษฏา หนูหล่า อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยของกลางโน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย จำนวน 3 ใบ สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ของผู้ต้องหา 2 เล่ม และแผ่นซีดีที่ผู้ต้องหาบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าอีก 1 แผ่น มีข้อมูลลูกค้ากว่า 5 หมื่นชื่อ
 
พล.ต.ต.โกวิทย์ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่บก.ปอศ.ได้รับการประสานงานจากสมาคมธนาคารไทย ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต  ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบนำข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าไปจำหน่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก สร้างความเสียหายให้กับลูกค้าและทางธนาคาร จึงสั่งการให้สืบสวน จนพบว่ามีการประกาศขายข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิตทางเว็บไซต์ต่างๆหลายเว็บไซต์เสนอขายในราคาข้อมูลละ.50 บาทถึง 8 บาท  จึงได้วางแผนติดต่อล่อซื้อ กระทั่งจับกุมตัวนายกฤษฏา พร้อมข้อมูลบัตรเครดิตมาจากผู้ต้องหาแล้ว  จากการสอบปากคำนายกฤษฏา ให้การรับสารภาพว่าเดิมทำอาชีพขายตรงสินค้า มีพี่ที่ทำงานด้วยกันชื่อป๊อบชวนมาขายข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งนายป๊อบบอกว่าได้ซื้อข้อมูลมาจากคนในธนาคาร แต่ส่วนมากได้มาจากแก๊งแฮ็กข้อมูล  เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาขอซื้อ ตนก็จะให้ลูกค้าโอนเงินผ่านทางบัญชี และแบ่งรายได้คนละครึ่ง  ภายหลังพอรู้วิธีตนก็ออกมาทำเองขายในราคา ข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิตตนจะประกาศขายข้อมูลละ 1 บาท ทำมา 4 เดือน มีรายได้ประมาณเดือนละ 6 หมื่นบาท แต่ไม่ขอเปิดเผยขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ เกรงจะไม่ปลอดภัยกลัวคนที่จ้างตนทำเขาดูข่าวอยู่ด้วย 
 
พล.ต.ต.โกวิทย์ กล่าวว่า หากข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของแก็งคอลเซ็นเตอร์จะเกิดความเสียหายอย่างมากเพราะคนร้ายจะนำข้อมูลบัตรเครดิตดังกล่าวไปต่อยอดหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อง่ายขึ้น  หรือนำข้อมูลไปขอทำบัตรใหม่โดยเจ้าของบัตรไม่รู้ ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้ข้อมูลดังกล่าวหลุดออกมาเผยแพร่และประกาศขายทางอินเตอร์เน็ตยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าคนในธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อาจจะเป็นการแฮคเกอร์ข้อมูลออกมาก็เป็นได้ หลังจากนี้จะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้งเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ และตรวจสอบข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิตในแผ่นซีดีที่ผู้ต้องหาเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามขณะนี้แนวทางการสืบสวนก็มีความคืบหน้าไปมากชุดจับกุมก็เร่งขยายผลไปถึงต้นตอแล้ว เร็วๆนี้จะมีการออกหมายจับหัวหน้าแก็งของผู้ต้องหาประมาณ 2 คน หากได้ตัวมาจะทำให้ทราบว่ามีการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตออกมาได้อย่างไร เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีไว้เพื่อนำออกใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ซึ่งเป็นการกระทำสำหรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้กับผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า บริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือเบิกถอนเงินสด ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
 
พล.ต.ต.สุรพล กล่าว่า เบื้องต้นน่าจะมีข้อมูลของผู้ถือบัตรเครดิตหลุดออกมาขายผ่านเว็บไซต์หลายแสนราย ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารอยู่ระหว่างการหาแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้ข้อมูลของลูกค้าหลุดออกมาได้อีก ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อบุคคลที่โทรศัพท์ไปอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกให้ทำธุรกรรมต่างๆ แม้ว่าข้อมูลส่วนตัวที่บอกจะตรงกับความเป็นจริง ให้ประชาชนโทรศัพท์ไปสอบถามกับทางธนาคารโดยตรง หรือไปตรวจสอบด้วยตนเอง และหากมีการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต ขอให้ตรวจสอบว่าเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ และมีระบบการป้องกันสูง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ