สังเวยแล้ว 7 ศพ บาดเจ็บอีกกว่าพัน “สหรัฐ-ยูเอ็น”สั่งอพยพคน ส่วนไทยส่งเครื่องบินไปรับอีก 300 แต่ยังไม่เพียงพอ
วันนี้ (3ก.พ.) นายกษิต ได้เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ว่าอาเซียนกำลังจะออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศอียิปต์ ขณะที่ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จะร่วมช่วยเหลือประชาชนของทั้ง 3 ชาติให้ออกมาจากอียิปต์โดยเร็วที่สุด ด้านการช่วยเหลือเร่งด่วนคือต้องเอาคนไทยออกจากอียิปต์โดยเร็วที่สุด โดยนำไปฝากไว้กับประเทศข้างเคียง อาทิ ประเทศจอร์แดนที่เมืองอัมมาน อย่างไรก็ตามญาติพี่น้องของนักเรียนหรือคนไทยที่อยู่ที่อียิปต์นั้น ถ้าติดต่อไม่ได้หรือหาตัวไม่เจอขอให้ติดต่อผ่านกรมการกงสุล โทร 02-575 1047-51
นพ.อภิชัย มงคล อธิดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ
ร้องขอให้กรมสุขภาพจิต ส่งจิตแพทย์ไปรับนักท่องเที่ยวไทยในอียิปต์กลับประเทศนั้น ปรากฏว่าจิตแพทย์ที่เดินทางไปด้วยต้องอยู่แต่ในห้องรับรอง ได้ทำงานจริง ๆก็ตอนขึ้นเครื่องแล้ว ผลการตรวจสุขภาพจิตพบว่า มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่มีความวิตกกังวลมาก
นายนัจมุดดิน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคมาตุภูมิ แถลงว่า
ตนได้รับการร้องเรียนว่าจากประชาชนในพื้นที่ว่าบุตรหลานซึ่งเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ ที่กรุงไคไร ประมาณ 2,500 คน ได้ขาดการติดต่อทางโทรศัพท์แล้ว ขณะเดียวกันร้านค้า ไปรษณีย์ ร้านขายอาหารก็ปิดกันหมดหาซื้ออาหารไม่ได้ ดังนั้นจึงมีความห่วงต่อความเป็นอยู่ของนักศึกษาเหล่านี้ ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้รีบนำนักศึกษาเหล่านี้กลับมาโดยด่วน
วันเดียวกัน ก่อนหน้านี้เวลา 01.45 น. ซึ่งตรงกับเวลา 20.45 น. วันที่ 2 ก.พ. ของอียิปต์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง
นายหะสัน กาเหย็ม นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยไคโร ประเทศอียิปต์ เปิดเผยว่า การชุมนุมวันที่ 2 เป็นวันที่เริ่มต้นของปัญหา มีการประกาศเคอร์ฟิวกะทันหัน ตอนนั้นคนงานไทยและนักศึกษายังนอกบ้าน ร้านค้าต่างๆเริ่มทยอยกันปิดลง ทุกคนต่างรีบไปซื้อของเพื่อกักตุนอาหาร แต่สินค้าทุกอย่างเริ่มราคาสูงมากขึ้น กลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มมากขึ้น และกลุ่มโจรก็ออกมาแฝงตัว หลังจาก 18.00 น. ขบวนรถถังของทหารก็ลาดตระเวนไปทั่วทั้งเมือง ชาวบ้านออกมาพร้อมมีอาวุธเป็นไม้หรือมีด ระมัดระวังกลุ่มโจร ซึ่งเป็นวันที่น่าสะพรึงกลัวมาก แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านกันทั้งหมด
นายหะสัน กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 ม.ค. เวลา 23.45 น. สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดทั้งประเทศ และถัดมาเวลาประมาณตี 5 สัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัด
ไม่มีใครกล้า ออกไปไหน สถานทูตของหลายประเทศทั่วโลก ก็พยายามทยอยนำเครื่องบินไปรับคนของประเทศตัวเองกลับ ในวันที่ 27 ม.ค.มีข่าวประกาศว่า ทรัพย์สินของรัฐถูกทำลายโดยผู้ชุมนุมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองหลวง สถานีตำรวจโดนเผาเกือบ 10 แห่ง รถตำรวจ ห้างถูกเผา และกลุ่มโจรก็เข้าไปลักขโมยของในห้างหมดเกลี้ยง ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงที่ประชาชนขาดแคลนจริงๆแล้ว ขาดอาหาร รวมถึงธนาคารหลายแห่ง ถูกเผาและบุกปล้น จนถึงวันนี้ระบบออนไลน์ของธนาคารเริ่มไม่สะดวกขึ้น กดเงินออกบ้างไม่ออกบ้าง ทำให้ไม่มีใครกล้าไปกดเงิน
“วันนี้หลายคนต้องการกลับบ้าน เนื่องจากความกลัว โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะมีข่าวประกาศลอยๆมาว่า ทางประเทศไทยจะส่งเครื่อง มารับกลับไทย แต่การประกาศและการรวมตัว นั้น เป็นแค่ข่าว เพราะ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เพราะถึงกลับก็คงไม่ทัน ตอนนี้หลายๆคนกลัวมาก เงินเริ่มหมด อาหารเริ่มหมด แม้กระทั่งจิตใจก็เริ่มอ่อนล้าลงมาก อยากได้ยินเสียงจากท่านทูตหรือเจ้าหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นบ้าง เพราะทุกคนมีแต่ความเสี่ยงอยู่รอบตัว ตอนนี้ผมออกจากบ้านได้วันละ 3-5 ชม. คือประมาณ 09.00-14.00 น. ทุกคนกลัวและผวากันหมด โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก อินเทอร์เน็ตเพิ่งเปิดใช้ได้หลังถูกตัดมาเกือบ 10 วัน ร้านขายของก็ปิด ไม่กล้าเปิด ตอนนี้เพื่อนต่างชาติกลับกันหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย จีน รัสเซีย ยุโรป”นายหะสัน กล่าว