รวบแก๊งขี้ยาย่องฉกทรัพย์มาแล้วกว่า 30 ครั้ง

ด.ต.ชัชพิมุข พงษ์พจน์พิพัฒน์ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปรามทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจตู้ยามนาพร้าว ได้รับแจ้งจากนายสามารถ เอี่ยมศรี อายุ 35 ปี เจ้าของร้านสามารถอลูมิเนียม ตั้งอยู่เลขที่ 149 หมู่ 7 ต.สุรศักดิ์อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า

ได้จับกุมคนร้ายที่เข้าลักทรัพย์ภายในร้านไว้ได้ 1 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน งรต 901 ชลบุรี และเศษเหล็กจำนวนมาก ที่คนร้ายได้ช่วยกันขนมาวางไว้ ส่วนคนร้ายอีกคนได้วิ่งหลบหนีไปในป่าตรงข้ามกับร้าน จึงขอให้เจ้าหน้าที่นำกำลังไปติดตามจับกุมเนื่องจากถูกคนร้ายก่อเหตุในร้านหลายครั้งแล้วจนต้องมาซุ่มดักจับจนจับกุมคนร้ายไว้ได้ หลังจากรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจอาสาจำนวน 10 นาย เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุได้กระจายกำลังปิดล้อมจุดที่คาดว่าคนร้ายอีกคนได้หลบหนีไป จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวน โดยคนร้ายคนแรกที่ถูกจับกุมได้นั้นคือ นายบรรพต ปิงตา อายุ 26 ปี ส่วนคนร้ายที่หลบหนีอีกคนคือ นายอำนาจ ทองอ่อน อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งสองสารภาพว่า มาก่อเหตุขโมยเศษเหล็กนำไปขายโดยได้มาก่อเหตุที่ร้านดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา และขโมยพระเครื่องไปจำนวนหนึ่ง แต่เจ้าของร้านตื่นมาพบจึงได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค ไว้แล้วพากันวิ่งหลบหนีไปพร้อมพระเครื่อง ต่อมาในช่วงกลางวันของวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าไม่มีคนอยู่ในร้านจึงได้พากันมาก่อเหตุลักบานประตูอลูมิเนียม 2 บาน พร้อมหินเจีย 1 อัน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมา 500 บาท และเมื่อเห็นว่าช่วงกลางดึกปลอดคนจึงเข้ามาที่หน้าร้านเพื่อขโมยเศษเหล็กที่กองไว้หน้าร้านอีกครั้ง แต่ถูกเจ้าของร้านกับลูกน้องซุ่มดูอยู่จับได้จึงพยายามจะพากันหลบหนี แต่ก็ไปไม่รอด ถูกเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไว้ได้

ทั้งสองยังสารภาพว่า ได้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนในพื้นที่ศรีราชาในเวลากลางคืนมากว่า 30 ครั้งแล้ว

โดยทรัพย์สินที่ได้มาจะนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า และร้านรับเช่าพระเครื่องในพื้นที่ อ.ศรีราชา ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ เนื่องจากติดยาบ้า นอกจากนั้นจะนำเงินไปเที่ยวเตร่ดื่มสุราและเที่ยวหญิงบริการตามสถานบริการในพื้นที่ อ.ศรีราชา เป็นประจำ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้เคยเข้าไปก่อเหตุมาแล้วถึง 3 ครั้งจนถูกจับดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงร้านรับซื้อของเก่า และร้านรับเช่าพระเครื่องในพื้นที่ เพื่อติดตามทรัพย์สินที่คนร้ายทั้งสองนำไปขายให้ เพื่อนำทรัพย์สินทั้งหมดกลับมาคืนผู้เสียหาย รวมถึงนำตัวเจ้าของร้านที่รับซื้อมาดำเนินคดีในข้อหา รับซื้อของโจรต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในยามวิกาลโดยใช้ยานพาหนะนำพาไปซึ่งทรัพย์ หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์