เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นกลางเมืองสงขลาอีกจนได้
เมื่อจู่ๆ มีนักโทษคดียาเสพติด 4 ราย รวมหัวใช้เลื่อยตัดเหล็กลูกกรงในเรือนนอน แล้วปีนข้ามกำแพงคุกหนีออกมาได้ ร้อนถึงตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ต้องระดมกำลังออกตามล่ากันยกใหญ่
ระดมอาวุธระดมคนล่านักโทษแหกคุกที่หนีอย่างไม่กลัวตาย สุดท้ายก็โดนยิงขาลากจนมุม 3 ราย
อีกรายหลบหนีไปได้หวุดหวิด!!?
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทางกรมราช ทัณฑ์ ต้องรีบอุดช่องโหว่ในการคุมขังนัก โทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักโทษคดียาเสพติดและคดีปล้นที่มีคดีร้ายแรงติดตัว เพราะหากหลบหนีไปได้อาจเป็นอันตรายต่อสังคม
บุคคลเหล่านี้จัดเป็นบุคคลอันตราย!!
เหตุการณ์แหกคุกครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนตี 4 วันที่ 26 ม.ค. ตำรวจสภ.เมืองสงขลา รับแจ้งจากเจ้าหนาที่เรือนจำสงขลา ว่าเกิดเหตุนักโทษหลบหนีออกจากเรือนจำจ.สงขลา หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าละเมาะเขตรอยต่อระหว่างหมู่ 3 กับหมู่ 4 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา
ร.ต.อ.อำนาจ อนันตพันธ์ ร้อยเวรฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ประกอบด้วย พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.กัมปนาท พาณิชย์ประเสริฐ ผกก. สภ.เมืองสงขลา พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนและฝ่ายปราบปรามรับทราบ และประสานไปยัง พ.ต.ท.ประจวบ พินิจกุล รอง ผกก. ตชด.43 ขอกำลังเสริมจากตชด. และตำรวจโรงพักใกล้เคียงพร้อมสุนัขดมกลิ่นออกปฏิบัติการ
ยิ่งกว่าหนังฮอลลีวู้ด ปฏิบัติการล้อมป่า ล่า4นักโทษแหกคุก
พรึบเดียวที่นั่นก็คลาคล่ำไปด้วยกำลังตำรวจกว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รีบรายงานเหตุการณ์และให้ข้อมูลคนร้ายกับตำรวจ ระบุว่ามีนักโทษ 5 คนช่วยกันตัดลูกกรงเรือนนอนออกมาแล้วปีนหลังคาห้องน้ำห้องที่ 25 ซึ่งอยู่ติดกำแพงเรือนจำ จากนั้นจึงต่อตัวข้ามกำแพงหนีออกมาได้ 4 ราย แต่คนสุดท้ายออกมาไม่ได้
ทั้ง 4 คนเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดและคดีปล้น ประกอบด้วย นายวีรพล ดนัยวิเชียร อายุ 25 ปี ต้องโทษในคดีชิงทรัพย์ นายอนุสรณ์ หนุนยะหยาด อายุ 26 ปี คดีปล้นทรัพย์และอาวุธปืน นายมู่ฮัมหมัด รักบุรี หรือเสือ อายุ 24 ปี คดียาเสพติดและอาวุธปืน และนายอนัส หมัดหลี อายุ 25 ปี มีความผิดในคดียาเสพติด
รองเอกภพ วางแผนปิดล้อมคนร้ายในพื้นที่ป่าละเมาะ ให้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งนอกและในเครื่องแบบเรียงหน้ากระดานเดินหาในป่าแบบปูพรม นำหน้าด้วยสุนัขดมกลิ่น ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนของชาวบ้านในย่านนั้น ที่พากันปิดบ้านเพราะกลัวคนร้ายจะเข้าไปวุ่นวาย
ตลอดการค้นหามีชาวบ้านให้เบาะแสเข้ามาทุกระยะ บางคนเห็นคน ร้ายเดินจับกลุ่มกันอยู่แถวริมป่า ในขณะที่บางคนก็เห็นหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้กลางทางตำรวจจึงไล่ล่าไปอย่างกระชั้น เห็นหลังคนร้ายไวๆ จึงใช้ปืนยิงขู่ไปตลอดทาง
ตั้งแต่ฟ้ามืดล่วงเลยมาถึงฟ้าสาง เจ้าหน้าที่สามารถตะครุบตัวนายวีรพล เอาไว้ได้ก่อนใคร
หลังนายวีรพลโดนจับได้ พวกที่เหลือก็วิ่งตาเหลือกเข้าป่าแบบไม่คิดชีวิต โดยมีเจ้าหน้าที่และสุนัขวิ่งไล่ตามไปติดๆ
กระทั่งในช่วงสิบโมง เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเข้าเคลียร์พื้นที่แบบเรียงหน้ากระดาน ใช้ทั้งรถทั้งคนลุยนำทางกระทั่งไปพบนายอนุสรณ์กับนายมูฮัมหมัด นอนหลบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าสภาพเลือดท่วมตัวเพราะถูกยิงเข้าที่ขาและช่องท้องได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งร.พ.สงขลา เพื่อรักษาอาการต่อไป
ส่วนนายอนัส อาศัยจังหวะชุลมุนไหวตัวหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
ตามกันจนตะวันตกดิน ตำรวจต้องยกเลิกการค้นหานักโทษที่เหลืออีก 1 คนเพราะกลัวจะเกิดความชุลมุน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้ช่วยเป็นหูเป็นตา
กว่า 10 ชั่วโมงในการค้นหา ทั้งแผนการ วิธีการ และการจับกุมคนร้ายระทึกราวกับหนังฮอลลีวู้ดก็ไม่ปาน
ทางเรือนจำจังหวัดสงขลา ได้นำภาพถ่ายนายอนัส แจกจ่ายให้ชาวบ้านในพื้นที่ต.เขารูปช้าง โดยเฉพาะหมู่ 3 และหมู่ 4 ซึ่งเป็นจุดที่พบตัวนายอนัส เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแส ระบุรูปพรรณสัณฐานรวมทั้งตำหนิที่เป็นจุดสังเกต แผลเป็นที่หางตาซ้ายและริมฝีปากล่าง และมีรอยสักตามตัว
ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวหมอนี่ขอให้ประชาชนระมัดระวัง เพราะนายอนัส ถือเป็นบุคคลอันตรายที่อาจลงมือก่อ เหตุอย่างใดอย่างหนึ่งได้
การติดตามไล่ล่านักโทษรายนี้ยังคงดำเนินต่อไป ในพื้นที่มีทั้งตำรวจนอกและในเครื่องแบบกระจายกำลังติดตามคนร้าย สำหรับประวัติของนายอนัสเป็นคนในพื้นที่ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ ก่อคดีเอาไว้มากมาย
คดีเก่ายังไม่ทันรับโทษก็มาก่อคดีใหม่อีกจนได้