จับแล้วหนุ่มฟอร์จูนเนอร์มือลั่นกระสุนทะลุกัปตันการบินไทย ขณะกบดานในรีสอร์ท จ.พังงา รีบหิ้วเข้ากรุงสอบ
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 21 ม.ค. ที่กองบังคับการสืบสวน บช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายณัฐพงษ์ หรือนายพริสร ห้วยหงษ์ทอง เจ้าของฉายา “อ๊อฟ บ้านลาด” อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับศาล ลงวันที่ 16 ม.ค. 2554 ในข้อหาพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
หลังก่อเหตุขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไล่ยิงร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 52 ปี กัปตันการบินไทย จนได้รับบาดเจ็บ บนทางพิเศษมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟสูง ท้องที่ สน.ประเวศ เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบช.น.สามารถแกะรอยได้จากการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาว่าได้ติดต่อกับญาติใน จ.พังงา และคาดว่าน่าจะหนีการจับกุมไปในพื้นที่ จ.พังงา จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบภาค 8 และสภ.ท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบ
และพบนายณัฐพงษ์ กับญาติ ขณะขับรถกระบะ เชฟโรเลต สีขาว ไม่ติดทะเบียน เพื่อจะเข้าไปจอดภายในศรีวราห์ รีสอร์ท หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง ซึ่งจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม.3 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด 11 ม.ม.และ9 ม.ม.รวม 63 นัด
สอบสวนนายณัฐพงษ์ ให้การว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช จริง เนื่องจากโกรธแค้นที่มีการขับรถปาดหน้ากัน จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงไปทั้งหมด 5 นัดซึ่งหลังก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี ระยอง จากนั้นหนีลงภาคใต้ กระทั่งถูกจับกุมที่ จ.พังงา ขณะที่กำลังจะแวะกินข้าว โดยยอมรับว่าปกติเป็นคนโมโหร้าย ใจร้อน และเหตุที่ต้องมีปืนพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากภรรยาทำฟาร์มกุ้ง จึงเกรงว่าจะมีขโมยเข้าไปขโมยกุ้งในฟาร์ม ในวันเกิดเหตุที่กระทำไปเพียงเพราะความโกรธเท่านั้น ไม่ต้องการยิงให้ถึงชีวิต
อย่างไรก็ตามหากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด และปืนที่ก่อเหตุนั้นโยนทิ้งลงแม่น้ำบางปะกงไปแล้ว ปกติมีปืนอยู่ 3-4 กระบอก โดยซื้อมาจากเพื่อนและไม่มีทะเบียน
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า สำหรับนายณัฐพงษ์ ก่อนหน้าที่เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซ้ำยังมีคดีค้างเก่าที่หลบหนีคดีอยู่ 3 คดี คือ ร่วมกันใช้อาวุธปืนพยายามฆ่า ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยเกิดขึ้นขณะแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน .คดีที่สอง ถูกจับข้อหาพกพาอาวุธปืน ขนาด .38 ในท้องที่ จ.ราชบุรี ส่วนคดีสุดท้าย คือข้อหาครอบครองยาบ้า 14 เม็ด ในเขตสน.ร่มเกล้า โดยทั้งสามคดี หลบหนีระหว่างการประกันตัว
ขณะที่ ร.ท.พูลวิทย์ กล่าวกับผู้ต้องหาว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร นับตั้งแต่วันที่ถูกยิงถึงวันนี้ และหลังจากทราบอายุของผู้ต้องหาเท่ากับลูกสาว และยิ่งมารู้ว่ากระทำลงไปเพราะความโมโหร้าย ยิ่งรู้สึกสงสาร ไม่โกรธและให้อภัยตลอดเวลา เนื่องจากไม่เคยโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเจ้าหน้าที่คุมตัวนายณัฐพงษ์ มาถึง บก.สส.บช.น. บรรดาญาติของผู้ต้องหาที่มารอการแถลงข่าวกว่า 10 คน ได้ตรงเข้าไปหอมแก้มนายณัฐพงษ์ เพื่อให้กำลังใจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปยังห้องสอบสวนที่มี ร.ท.พูลวิทย์ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อ นายณัฐพงษ์ เห็น ร.ท.พูลวิทย์ ก็ได้ตรงเข้าไปก้มลงกราบเท้าขอขมาทันที พร้อมกล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป และเมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ป้าของ นายณัฐพงษ์ ก็ได้เข้าไปกราบเท้า ร.ท.พูลวิทย์ เพื่อเป็นการขอขมาด้วยเช่นกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ต่อไป.