นายจิงก่อ แซ่โจว อายุ 42 ปี ชาวเชียงราย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณีลูกสาวอายุ 14 ปี
ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่างปริศนาในบ้านที่ จ.เชียงราย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายจิงก่อ เปิดเผยว่า ตนได้อยู่กินกับนางแก้ว (นามสมมติ) ภรรยาชาวเผ่ามูเซอ ที่ จ.เชียงราย กว่า 20 ปี มีบุตรสาวด้วยกัน 3 คน โดยที่ตนไม่รู้มาก่อนว่าภรรยามีลูกติด หลังจากที่ตนและภรรยาได้สร้างบ้านเสร็จแล้ว ภรรยาได้พาบุตรชายที่เกิดจากสามีเก่าเข้ามาอยู่ด้วย จากนั้นภรรยาไปทำงานต่างประเทศ ตนมาทำงานที่กรุงเทพฯพาบุตรสาวคนโตมาเรียนปริญญาตรี บุตรสาวคนเล็กอยู่กับป้าที่เชียงราย บุตรสาวคนกลางอยู่ที่บ้านเพียงลำพังกับลูกติดของภรรยา เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2553 บ้านถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง บุตรสาวคนกลางไฟคลอกเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ห้องของลูกติดภรรยาไฟไม่ไหม้ จากการชันสูตรศพพบว่ากะโหลกศีรษะมีรอยร้าว จากการถูกตีด้วยของแข็ง ในขณะที่ผลการสืบสวนยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้กลัวว่าคดีการเสียชีวิตของบุตรสาวจะเงียบหาย
นางปวีณา กล่าวว่า หลังรับเรื่องราวร้องทุกข์ได้ประสานไปยังตำรวจเชียงราย เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี รวมทั้งเร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย