อย.-บก.ปคบ.ล่อซื้อยาปลุกเซ็กส์-ยาปลอมไม่มีทะเบียน ย่านพัฒน์พงศ์ ได้ของกลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (13 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พ.ต.อ.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบก.ปคบ. ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมร้านขายยาปลอม ยาไม่มีทะเบียน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
นายจุรินทร์ กล่าวว่า อย.ได้ร่วมกับ บก.ปคบ.ทำการล่อซื้อยาผิดกฎหมาย ที่ร้านขายยาบอดี้ ดีไซน์
ตั้งอยู่ที่ 32/2 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุรวงศ์ เขตบางรัก กทม. พบยาปลอม และยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา 7 กลุ่ม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ยากลุ่มที่ใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เช่น ไวอะกร้าปลอม คามากร้าปลอม คามากร้ารูปแบบพิเศษชนิดเม็ดฟู่ และเจลลี่ 2.ยากลุ่มเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ลักลอบใช้กับกลุ่มนักกีฬา 3.ยาฮอร์โมนเพศชายชนิดฉีด 4.ยาลดความอ้วนไซบูทรามีน 5.ยาฉีดสำหรับทำให้ผิวขาว กลูตาไธโอน 6.ยาเสริมสร้างกล้ามเนื้อม้า โค กระบือ แพะ แกะ ซึ่ง อย.ได้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนแล้ว แต่นำมาฉีดในคน เช่น วีโบลเด็กซ์ ซึ่งยาชนิดนี้มีการแอบนำไปใช้ในนักกีฬาเพาะกาย หรือนักกรีฑา และ 7.กลุ่มยาเสพติดให้โทษประเภท 3 ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ได้แก่ ยาแก้ปวดผสมโคเดอีน
รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า กรณีของยาเสริมสร้างกล้ามเนื้อม้า หรือ วีโบลเด็กซ์ หากกินเข้าไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
เช่น ตับอักเสบ มะเร็งตับ เลือดข้นหนืด หัวใจวาย และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ต่อมลูกหมากโต การสร้างสเปิร์มลดลง นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ทั้งนี้ ร้านขายยาที่จับได้ในครั้งนี้ อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นแหล่งขายยาปลุกเซ็กส์ และขายยาผิดกฎหมาย ดังนั้น อย.และ บก.ปคบ.จะมีมาตรการตรวจเข้มร้านขายยาในแหล่งท่องเที่ยวเป็นพิเศษ สำหรับโทษกรณีนี้ คือ ขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทำเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขายยาปลอมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-1 หมื่นบาท
ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ร้านขายยาดังกล่าว เคยกระทำผิดมาแล้ว
ดังนั้น จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป สำหรับยาในกลุ่มรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น ทราบว่ามีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยหิ้วเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิเป็นล็อตเล็ก ๆ โดยยาดังกล่าว จะขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาจซื้อไปฝากคนอื่น ดังนั้น อย.จะขยายผล เพื่อจับกุมแหล่งขายส่งต่อไป
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อย.ได้ตรวจพบการโฆษณาขายยาไซโตเทค
เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปทำแท้งผ่านทางเว็บไซต์ จึงได้ประสานกับ บก.ปคบ.ในการล่อซื้อยาดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ม.ค. โดยได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไซโตเทค จำนวน 6 เม็ด จากการสืบสวนผู้ต้องหาทราบว่า สั่งซื้อยาดังกล่าว มาจาก จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ จะมีการขยายผลหาต้นตอต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ทนัย กล่าวว่า ยาปลอม และยาไม่มีทะเบียนจะมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินเดีย ปากีสถาน โดยหิ้วมาทางสนามบินนานาชาติต่าง ๆ ไม่เฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น สำหรับคนที่หิ้วเข้ามา มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ.