โทร.1900ลามก-ลวงเด็กหมกมุ่นหมดตัว

"ครูยุ่น" แฉ โปรแกรมโทร ศัพท์ 1900ให้ บริการเล่าเรื่อง เพศสัมพันธ์กันโจ๋งครึ่ม วิปริตหนัก

มีทั้งเรื่องร่วมเพศระหว่าง เด็กกับเด็ก พี่กับน้อง แม่กับลูก ผิดทั้งศีลธรรม และกฎหมาย แต่ยังลงโฆษณาหราในหน้าหนังสือพิมพ์ จี้ทีโอทีผู้ให้ใบอนุญาตไม่เข้ามาตรวจ สอบ ฉะกระทรวงวัฒนธรรม แก้แต่เรื่องอื่น ทีเรื่องนี้กลับนิ่งเฉย ทั้งที่ขัดศีลธรรม วอนสังคมอย่า มองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะจะทำให้การละเมิด ทางเพศเป็นเรื่องปกติ

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์ระบายความคับข้องใจจากมารดาของเด็กชายคนหนึ่ง

เนื่องจากลูกชายที่เรียนอยู่ชั้น ม.1 ต้องเสียค่าโทรศัพท์มือถือเปลืองมาก บางวันเติมเงินถึงวันละ 200 บาท ทั้งๆ ที่ค่าบริการโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันลดลง ต่อมาพบว่า สาเหตุเกิดจากลูกชายใช้บริการโทรศัพท์ 1900xxxxxx หรือ 1900xxxxxx ซึ่งให้บริการเล่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างละ เอียด และหมายเลขบริการดังกล่าวยังโฆษณาในหนังสือพิมพ์กีฬา และหนังสือพิมพ์กีฬาฟุตบอลฉบับหนึ่ง ปัจจุบันก็ยังลงโฆษณาอยู่

นายมนตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ฟุตบอลดังกล่าว พบหมายเลขตรงกับที่ได้รับแจ้ง

และเมื่อโทร.เข้าไปยังหมายเลข 1900xxxxxx หรือ 1900xxxxxx ก็มีเสียงผู้หญิงพูดว่า "ขอต้อนรับเข้าสู่แหล่งรวมเรื่องราวความรัก" ต่อด้วย "ยินดีเข้าสู่บริการเทคนิครักหลากรส" ต่อด้วย เรื่องเสียวร้อยแปด กด 1 ส่งสยิวผ่านสาย กด 2 เรื่องจริงที่เคยโดน กด 3 และเมื่อกดโทรศัพท์เลือกไม่ว่าจะเป็นรายการ 1, 2 หรือ 3 ก็จะมีหัวข้อย่อยให้เลือกอีกหลายหัวข้อก่อนมีเรื่องเล่า แต่ละเรื่องเป็นเรื่องเล่าที่เน้นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ชายกับชาย และหญิงกับหญิง อย่างละเอียด ที่น่าตกใจคือบางเรื่องวิปริตอย่างมาก เช่น เมื่อโทรศัพท์เข้าไปแล้วเลือก กด 2 ต่อด้วย กด 4 แล้วเลือกเรื่องที่ 1 จะเป็นเรื่องการร่วมเพศของอาผู้ชายกับหลานสาว เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการร่วมเพศของแม่กับลูกชาย และมีน้องสาวยืนดู เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องการร่วมเพศของน้องสาวกับพี่ชาย และเรื่องที่ 7 เป็นเรื่องการร่วมเพศของเด็กชายกับเด็กหญิง เป็นต้น ทุกเรื่องจะเล่าเน้นการมีเพศสัมพันธ์อย่างละเอียด ยาวประมาณ 4-5 นาที คิดค่าบริการนาทีละ 13 บาท แต่บางครั้งก็ไม่บอกราคาค่าบริการ

"การที่โปรแกรมแบบนี้นำเสนอเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับเด็ก พี่กับน้อง หรือแม่กับลูก มองในมุมไหนก็ผิดทั้งในแง่ของศีลธรรม และกฎหมาย ยิ่งในโฆษณาเขียนบอกว่า ต้องอายุเกินกว่า 18 ปี จึงใช้บริการได้ ก็ยิ่งกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามา ถ้าเรามองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ก็จะทำให้กฎเกณฑ์ทางศีลธรรมไม่มีความหมายอีกต่อไป ปล่อยให้มันเป็นเรื่องสาธารณะ ใครก็สามารถเข้าถึงเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ ถ้าเรามองเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้เป็นเรื่องบันเทิง ต่อไปก็จะยิ่งหนักกว่านี้ไปอีกเรื่อยๆ สมัยหนึ่งสังคมปล่อยให้มีเด็กอยู่ในซ่อง เพราะมองเป็นเรื่องธรรมดา พอมองว่าธรรมดาเลยแก้ยาก จะบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย สังคมเดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ก็คงจะไม่ใช่" นายมนตรี กล่าว

นายมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการให้สัมปทาน การให้อนุญาต โดยบมจ.ทีโอทีซึ่งมีเรื่องการแบ่งรายได้มาเกี่ยวข้อง

เมื่อให้อนุญาตแล้วได้ติดตามดูบ้างหรือไม่ หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นไป และหากติดตามไม่ได้ เป็นเพราะสาเหตุอะไร หรือในสัญญาเขียนว่าสามารถทำอย่างนี้ได้ เรื่องนี้ทำลายศีลธรรม ทำลายสังคมอย่างมาก นอกจากทำให้พ่อแม่ของเด็กหลายคนต้องเสียเงินแล้ว ยังทำให้เด็กติดเรื่องเหล่านี้ด้วย ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม บางเรื่องที่เบาหวิว ก็บอกว่ากระทบกับวัฒนธรรม แล้วเรื่องทำนองนี้ ท่านฟังแล้วมองว่ากระทบหรือไม่

"โปรแกรมแบบนี้ถ้าควบคุมไม่ได้ ผมว่าทีโอทีอย่าเอาเงินเขาเลย มันไม่คุ้มหรอก ปัญหานี้มีมานานแล้ว แต่แก้ไม่ได้เพราะให้เงินดี และใช้วิธีแยบยล ส่วนหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ก็ปล่อยกัน ถ้ายังเป็นแบบนี้ นโยบายที่ออกมาก็เป็นนโยบายปากเปล่า เราบอกว่าสังคมเข้มแข็ง แต่ถ้าปล่อยให้เรื่องผิดศีลธรรมเป็นเรื่องธรรมดา สังคมจะเข้มแข็งได้อย่างไร และเรื่องแบบนี้ยังทำให้การละเมิดทางเพศกลายเป็นเรื่องปกติด้วย" นายมนตรี กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์