รวบนักพนันตระเวนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง

รวบนักพนันตระเวนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง กทม.-ปริมณฑล ทำ 5 ครั้ง ได้ทองกว่า 600 บาท

วันนี้ 7 ม.ค. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ( ผบช.น.)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเม เรืองสวัสดิ์  รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน  ร่วมกันแถลงผลกองกำกับการสืบสวนนครบาล 2 จับกุมหนุ่มนักเล่นพนัน ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า นำหนัก 300 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาลาดพร้าว  เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา  ได้ผู้ต้องหาคือนายสุพจน์ บุญเรืองรอด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 2 ต.บ้านแก่ง อ.สรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เงินสดอีกจำนวน 50,000 บาท  รถยนต์โตโยต้า โคโรล่า สีดำ ติดทะเบียน กจ 2537 ที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี  โดยยึดได้ที่ตลาดนัดสะพานขาว คลอง 1 จ.ปทุมธานี (รถดังกล่าวแต่เดิมเป็นรถแท็กซี่ สีส้ม ทะเบียน ทย 6572 กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ต้องหาลักมาจากอู่แท็กซี่ ย่านบางอ้อ เขตจอมทอง กทม.เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2552 ส่วนทะเบียน ลักมาจากห้างบิ๊กซีคลอง 6 จ.ปทุมธานี ประมาณ กันยายน 2553)  

นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด.38 ยี่ห้อสมิธแอนเวทสัน ทะเบียนปืน พช1/15517 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 50 นัด  สร้อยคอทองคำที่ได้จากการก่อเหตุ(ร้านทองออโรร่า) รองเท้าผ้าใบสีขาวมีแถบแดง 1 คู่ (ใช้ในวันเกิดเหตุและผู้ต้องหายังสวมอยู่)  หมวกแก๊ปสีดำ 1 ใบ (ใส่ในวันก่อเหตุ) และรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซิตี้ ทะเบียน สฐ 3992 กรุงเทพมหานคร (นายสุพจน์ นำเงินที่ได้จากการขายทองที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ ซื้อดาวน์เต็นรถมือสอง ที่ จ.กาฬสินธุ์ ราคา 280,000 บาท)
และอาวุธปืนปลอมชนิด รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก  จับกุมตัวได้ภายในห้างสรรพ สินค้า เซนทรัล สาขา แอร์พอร์ต  จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับท้องที่ สน.พหลโยธิน    ขณะที่เตรียมลงมือก่อนเหตุปล้นร้านทองในห้างดังกล่าว  นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

สอบสวนผู้ต้องหา  รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า เหตุเลือกชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า   เพราะเห็นว่า พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอยู่ในร้านง่ายต่อการชิงทรัพย์   โดยทำมาแล้ว 5 ครั้งในพื้นที่ กทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัด ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนักรวมแล้วกว่า 600 บาท โดยไม่ได้เตรียมวางแผนล่วงหน้า หากมีจังหวะก็จะลงมือก่อเหตุทันที ส่วนทองที่ได้จะนำไปทยอยขายตามร้านทองและโรงรับจำนำต่างๆในราคาถูก   นำเงินสดไปใช้จ่ายทั่วไป และเล่นการพนันตามบ่อนชายแดน และที่ผ่านมาช่วงก่อเหตุเคยถูกเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงบาดเจ็บมาแล้ว 1 ครั้ง 

“เหตุที่เลือกปล้นทองภายในห้างเนื่องจากคนเยอะง่ายต่อการหลบหนีเพราะจะทำให้เกิด การชุลมุน ส่วนปืนที่มีก็ขโมยไว้ใช้เพื่อนำมาข่มขู่ขณะปล้น และทองที่ได้มาก็นำไปขายตามร้านจนเหลือทองน้ำหนัก 5 บาท  แต่จะไม่ไปขายที่โรงรับจำนำ  ส่วนเงินที่ได้จากการขายทองก็นำไปใช้เล่นการพนันตามชายแดน  เนื่องจากตนติดการพนัน และขอยอมรับก่อเหตุดังกล่าวทั้งหมดจริง ส่วนกรณีที่มีคนร้ายปล้นทองท้องที่ สน.ดอนเมือง นั้นผมไม่เกี่ยวข้องเพราะว่าตอนนั้นอยู่ที่เชียงใหม่” ผู้ต้องหากล่าวในที่สุด

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติอาชญากร ย้อนหลังยังพบว่า ผู้ต้องหาติดคุกตั้งแต่อายุ 16 ปี ในคดีลักทรัพย์และเข้าออกจากคุก 6-7 ครั้ง อีกทั้งยังมีหมายจับในคดีต่างๆอีก 4 คดี ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล อีกด้วยทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งขอกล่าวหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน และโดยแปลงตัวหรือปลอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นๆเพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำหน้าได้ ใช้พาหนะในการกระทำผิดและพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตเข้าไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า  ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองหลายแห่งหลายพื้นที่  โดยติดตามจับกุมได้ที่ จ.เชียงใหม่ ขณะตระเวนดูพื้นที่เพื่อก่อเหตุ  ส่วนปืนและรถที่ใช้ก่อเหตุเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการลักมา  เมื่อได้ทองจะนำไปขายหรือจำนำตามร้านทองในพื้นที่ กทม.และจ.ปทุมธานี เมื่อได้เงินมาก็ไปซื้อรถยนต์  และเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน  โดยพบว่าเคยก่อเหตุหลายครั้ง ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2553 เวลา 19.48 น. ที่ห้างทองเยาวราชแสงสุวรรณ ในห้างบิ๊กซี สาขาอยุธยา พื้นที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกเจ้าของร้านใช้ปืนยิงใส่บาดเจ็บและหนีไปโดยไม่ได้ทอง   และเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2553 ก่อเหตุที่ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว พื้นที่ สน.โชคชัย ได้ทองรูปพรรณ 135 บาท อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ