เมื่อวันที่27 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข
พร้อมด้วย นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.)เดินทางไปยังห้องพักเลขที่ 23 บนชั้น 2 ของอพารท์เม้นท์ไม่มีชื่อ เลขที่ 7/1 ซอยคู้บอน 31 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักสถานพยาบาลและสาย เข้าไปล่อซื้อโดยขอรับบริการทำแท้งเถื่อน กับ น.ส.นกน้อย ภักดีล้น อายุ 26 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้พบของกลางทั้งเครื่องมือแพทย์ และยาหลายชนิดซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดก่อนควบคุมผู้ต้องหาไปสอบปากคำ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นการขยายผลมาจาก 2002 ศพที่วัดไผ่เงินโชตนาราม
ซึ่งได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเฝ้าระวังคลินิก 4 ประเภทที่อาจเปิดให้บริการทำแท้งเถื่อน เช่น คลินิกเสริมความงาม คลินิกให้บริการปรึกษาวางแผนครอบครัว คลินิกบำบัดรักษายาเสพติด แลคลินิกศัลยกรรม ในกรณี น.ส.นกน้อยเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ 1.ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือรับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 กรณีสถานพยาบาลเถื่อนที่ไม่ขออนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ผิดกฎหมายอาญา คือรับทำแท้งโดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย
ด้าน น.ส.นกน้อย ภักดีล้น อายุ 26 ปี สารภาพว่า เพิ่งมาเช่าห้องพักนี้ได้ไม่นาน และเปิดรับปรึกษายุติการตั้งครรภ์ ปกติจะส่งต่อไปที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านรังสิต
แต่วันนี้หยุดเลยไม่ได้ส่งไป อายุครรภ์ที่รับปรึกษานั้นจะอยู่ประมาณ 1-2 เดือน โดยจะใช้วิธีการสอดหรือเหน็บยา ได้คิดค่าเหน็บรายละ 500 บาท ซึ่งส่งต่อมาจากคลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งย่านหทัยราษฎร์ แต่หากรวมค่ายาจะตกประมาณ 7,000-8,000 บาท ที่ผ่านมาได้ให้คำปรึกษาทำแท้งไปแล้ว 6-7 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา อายุประมาณ 16-25 ปี ในรายที่มีอายุครรภ์เกิน 2 เดือน ก็จะไม่รับทำและจะส่งต่อไปยังคลินิกย่านรังสิตเพื่อให้นำเด็กออก ส่วนเครื่องมือที่เห็นทั้งปากคีบและที่เปิดช่องคลอด เป็นเครื่องมือที่เพื่อนนำมาฝากไว้ โดยยอมรับว่าก็กลัวบาปเหมือนกัน แต่เขามาขอช่วยให้ทำให้ เพราะบางคนก็ยังเรียนอยู่ ตนไม่ได้เป็นพยาบาล เพียงแต่ที่ผ่านมาเคยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน จึงมาเปิดรับตรงนี้
บุกทลาย4คลีนิคทำแท้งเถื่อนเมืองกรุง
จากนั้นนายจุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อไปยัง หทัยราษฎร์ 21 คลินิกเวชกรรม เขตมีนบุรี
ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหทัยราษฎร์ ตามที่ น.ส.นกน้อยให้ข้อมูล ปรากฏว่า พอไปถึงคลินิกดังกล่าวได้ปิดให้บริการไปแล้ว จากการสอบถามคนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวทราบว่า เพิ่งจะปิดให้บริการก่อนที่นายจุรินทร์จะเดินทางไปถึงเพียง 30 นาที โดยนายจุรินทร์ กล่าวอีกครั้งว่า เข้าใจว่าคลินิกแห่งนี้จะเป็นคลินิกเถื่อนเพราะไม่มีใบอนุญาต ซึ่งคลินิกแห่งนี้ถือเป็นสถานที่รับผู้มาทำแท้ง ก่อนส่งต่อไปที่อพาร์ท์เม้นที่ น.ส.นกน้อยอาศัยอยู่ คือการทำแท้งเริ่มต้นนับหนึ่งที่นี่ ดังนั้นจะมีการขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 15.00 น.นายจุรินทร์ เดินทางต่อไปยังคลินิกราม 97 เวชกรรม ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง
โดยก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมสาย ได้เข้าไปล่อซื้อโดยขอรับบริการทำแท้งมาก่อนแล้ว โดยได้มีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมของกลางเงินสด 9,000 บาท นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์การแพทย์ ที่ใช้ในการทำแท้งเถื่อนหลายรายการ ประกอบด้วยกระบอกสุญญากาศ ปากเป็ดในการถ่างปากมดลูก รวมทั้งยาแผนปัจจุบันจำนวนมากได้แก่ ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ
ด้าน น.ส.นิภา สร้อยสอิ้ง อายุ 43 ปี กล่าวว่า ได้เช่าอาคารเดือนละ 5,000 บาท และเปิดให้บริการทำแท้งมา 3-4 เดือน ตั้งแต่เดือน ส.ค.
โดยส่งต่อมาจากคลินิกย่าน ซอยรามคำแหง 24/1 ซึ่งแต่ละเดือนจะมีผู้หญิงมาทำแท้งประมาณ 10 ราย มีทั้งวัยรุ่น คนที่อายุมากก็มี อาชีพมีทั้งคนทั่วไปและที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ซึ่งอายุครรภ์จะอยู่ประมาณ 2 เดือน ถึง 2 เดือนครึ่ง ส่วนวิธีการทำแท้งนั้นจะใช้เครื่องดูดออกหมด และที่ดูดออกมานั้นยังเป็นแค่ก้อนเลือด ไม่ได้เป็นตัวเด็ก โดยจะคิดค่าบริการประมาณ 3,500 บาทต่อคน ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงมารับทำแท้ง น.ส.นิภา ก้มหน้าพร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า พี่ก็มีความจำเป็น ถึงต้องมารับทำตรงนี้
ภายหลังเข้าจับกุม นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า คลินิกราม 97 เวชกรรมถือเป็นคลินิกทำแท้งเถื่อน
ซึ่งมีความผิด 3 ข้อหาเช่นกันอย่างไรก็ตามก่อนเข้าจับกุมในครั้งนี้ทางสายและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการล่อซื้อที่คลินิกนัทพร ซอยรามคำแหง 24/1 พบว่าคลินิกแห่งนี้ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่คลินิกแห่งนี้ได้มีการส่งต่อคนไข้ที่ต้องการทำแท้งมาที่คลินิกราม 97 เวชกรรม ซึ่งก็คงจะมีการดำเนินการกับแพทย์ผู้ให้บริการที่คลินิกดังกล่าวต่อไปเพราะเปิดคลินิกให้บริการแล้วไม่ได้อยู่ให้คนอื่นมาดำเนินการแทน นอกจากนี้จะรวบรวมข้อมูลส่งให้แพทยสภาดำเนินการด้วย
นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า หลังจากมีกรณี 2002 ศพ คลินิกเถื่อนได้ระวังตัวมากขึ้น
และปรับรูปแบบให้บริการใหม่ คือ รับจากที่ 1 แล้วส่งต่อมาให้บริการทำแท้งยังคลินิกอีกที่หนึ่ง เหมือนกับที่ล่อซื้อและจับกุมได้ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามกรณีคลินิกนัทพรซึ่งขออนุญาตถูกต้อง ถือว่ามีความผิดด้วยเพราะเรามีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้รับเงิน ดังนั้นจึงมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย สำหรับราคาการให้บริการทำแท้งในครั้งนี้สายได้เข้าไปขอรับบริการที่คลินิกนัทพร โดยท้องประมาณ 3 เดือนคิดค่าบริการประมาณ 8,200 บาท พอจ่ายเงินที่คลินิกนัทพรเสร็จก็ส่งต่อผู้ป่วยมาที่คลินิกราม 97 เวชกรรม ซึ่งเป็นคลินิกเถื่อน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า กรณีของคลินิกนัทพรจะมีความผิด 2 ข้อ
คือ ปกติการเปิดคลินิกจะต้องมีผู้ขออนุญาต 2 คน คือขออนุญาตเปิดคลินิก และขออนุญาตให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งในการเปิดให้บริการทางการแพทย์นั้นมี นพ.คนหนึ่งเป็นผู้ขออนุญาต แต่กรณีนี้เมื่อ นพ.คนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในคลินิก แต่ให้คนอื่นมาดำเนินการ กรณีนี้ถือว่าไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้จะมีการเรียก นพ.คนดังกล่าวมาให้ข้อมูลต่อไป นอกจากนี้จะรวบรวมข้อมูลส่งให้แทพยสภาพิจารณาจริยธรรมด้วย.