จับไอซ์คารังไอ้มือย่านอ่อนนุช

เมืื่่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา  พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 บช.ปส.พร้อม พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รอง ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช ผกก.2 บก.ปส.1 และ พ.ต.ต.สิทธิเดช เรืองสม สว.กก.2 บช.ปส.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.

ถือหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนง เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นแหล่งพักอาศัยของชาวอเมริกาใต้ สัญชาติแอฟริกา ไนจีเรีย กานา และแคมเมอรูน ภายในซ.อ่อนนุช 44 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดลักลอบมากบดานอยู่ ที่หมายแรกเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลเลขที่ ค.154/2553 ลงวันที่ 25 ธ.ค.53 เข้าตรวจสอบห้องพักเลขที่ 303,304 และ 311 ชั้น 3 อาคารแฮปปี้แมนชั่น ตั้งอยู่เลขที่ 403 ใน ซ.อ่อนนุช 4 4 หลังสืบทราบว่า นายดารามี ซีโค อายุ 30 ปี สัญชาติแอฟริกา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 62/2551 ลงวันที่ 6 พ.ค.51 ข้อหาพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)โดยผิดกฎหมาย เข้ามาอาศัยอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าห้องพักหมายเลข 303 และ 304 ถูกคล้องด้วยแม่กุญแจล็อกจากภายนอกจึงพังประตูเข้าไป

ตรวจสอบ ภายในห้องเลขที่ 303 พบยาไอซ์ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า จำนวน 102.5 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง

ส่วนในห้องเลขที่ 304 พบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงยีน และรองเท้าผ้าใบ จำนวน 62 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง และอุปกรณ์เสพยาอีกจำนวนหนึ่ง รวมของกลางยาไอซ์ที่ยึดได้ทั้งสิ้น 164.5 กรัม มูลค่าประมาณ 576,000 บาท
 
 เมื่อเจ้าหน้าที่เคลื่อนกำลังไปตรวจสอบห้องเลขที่ 311 ปรากฏว่ามีชายชาวอเมริกาใต้ ผิวดำรูปร่างใหญ่ อายุประมาณ 30-35 ปี ไหวตัวทันวิ่งออกจากห้องพักพุ่งเข้าไปในห้องฝั่งตรงข้ามเลขที่ 312 ก่อนกระโดดระเบียงด้านหลังลงสู่พื้นเบื้องล่างแล้วอาศัยความมืดหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด จากการตรวจค้นห้องพักในห้องดังกล่าวอย่างละเอียด พบสำเนาหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายฟานซิส ชิบูซอร์ สัญชาติไนจีเรีย จำนวน 1 แผ่น และพบวัตถุต้องสงสัยเป็นก้อนผลึกคล้ายยาไอซ์ขนาดเท่าหัวแม่มือ จำนวน 2 ก้อนซุกไว้ในกล่องกระดาษจึงยึดไว้เป็นของกลางเพื่อรอการใช้น้ำยาเคมีตรวจสอบอีกครั้ง
 
 จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันยังได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในร้านอาหารเอส ลักกี้สตาร์ ตั้งอยู่ใต้ถุนอาคารโรงแรมโรสการ์เด้นอินท์ อยู่ห่างจากที่หมายแรกประมาณ 300 เมตร

พบชาวต่างชาติผิวดำ ประมาณ 20 คน กำลังนั่งกินดื่มสังสรรค์อยู่กับผู้หญิงชาวไทย โดยบางส่วนกำลังเล่นสนุกเกอร์กันอยู่ จากการตรวจค้นพบว่ามีชายสัญชาติ ไนจีเรียและกานา รวม 10 คน ไม่พกพาหนังสือเดินทาง จึงเชิญตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีที่ บก.สส.สตม. จากการสอบถาม นางศิริลักษณ์ หอมไกล อายุ 36 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า แขกทั้งหมดที่อยู่ในร้านเป็นเพื่อนกับสามีชาวไนจีเรียของตนซึ่งคบหามาได้ 2 ปีแล้ว โดยชาวต่างชาติทั้งหมดนี้นับถือศาสนาคริสต์จึงเดินทางมาสวดมนต์เนื่องในเทศกาลคริสต์มาสที่คริสตจักรพันธกิจชีวิตใหม่ ตั้งอยู่ภายในซอยเดียวกันกับแฮปปี้แมนชั่น เมื่อทำพิธีเสร็จก็ชักชวนกันเข้ามาสังสรรค์ต่อที่ร้านตน โดยไม่ทราบว่ามีใครยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่    

 พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 ได้ข้อมูลมาว่ามีชาวต่างชาติผิวดำเข้ามาใช้พื้นที่แมนชั่นและสถานบริการในย่านนี้เป็นแหล่งพักอาศัยจำนวนมาก

โดยส่วนใหญ่จะเดินทางเข้ามาหลอกหญิงชาวไทยไปแต่งงานด้วย จากนั้นก็จะวางอุบายชักชวนให้เดินทางไปเที่ยวประเทศแถบอเมริกาใต้ และให้ขนสัมภาระซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามาในประเทศแถบอาเซียน โดยขณะนี้มีสถิติหญิงไทยถูกจับกุมคดีลักษณะนี้สูงขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังพบว่ามีผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ตามหมายจับประเทศไทยมาอาศัยอยู่

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลเข้ามาตรวจค้นแต่กลับไม่พบตัวผู้ต้องหา ยึดได้เพียงของกลาง จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าก่อนหน้านี้มีผู้เช่าห้องพักเลข 303 เป็นวัยรุ่นสามีภรรยาชาวไทย เพิ่งย้ายออกไปได้ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากถูกตัดไฟ โดยฝ่ายชายทราบเพียงชื่อเล่นว่า นายกอล์ฟ อายุ 19 ปี เท่านั้น ส่วนผู้เช่าห้องพักเลขที่ 304 เป็นสามีภรรยาผิวดำเพิ่งย้ายออกไปได้ 2 สัปดาห์ ชื่อนายชาลี และ นางล็อบบี้ อายุประมาณ 30 ปี โดยหลังจากนี้จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป