ที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา นางสมศรี จุนหิรัญ อายุ 49 ปี
ได้พานายมานะ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก. และร.ต.อ.พุฒิพงศ์ อินธาระ พนักงานสอบสวน สภ.อุทัย เจ้าของคดี โดยนางสมศรี กล่าวว่า ตนเป็นอาและเลี้ยงนายมานะ มาตั้งแต่เด็ก และทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า นายมานะ ถูกออกหมายจับ จึงรู้สึกตกใจว่า ทำไมถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยว และหลานชายกลัวจะถูกวิสามัญ จึงโทรศัพท์มาปรึกษาให้พาเข้ามอบตัว เพราะหลานชายบอกว่า ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน และเห็นว่าเป็นลูกผู้ชายทำผิดต้องยอมรับผิด
ด้าน นายมานะ กล่าวว่า รู้จักกับนายโจ๊กและนายจิ๊บ เพราะเคยไปกินข้าวด้วยกัน และวันเกิดเหตุได้เข้าไปหานายโจ๊ก และนายจิ๊บ เพื่อขอยืมเงิน
แต่ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมียาเสพติดและอาวุธปืน รวมทั้งขณะที่ตำรวจเข้าไปล้อมจับ ก็ไม่ทราบว่า เรื่องอะไร จึงรีบออกมาจากที่สไมล์แมนชั่นตามปกติ และไม่ได้หลบหนีไปไหน จนกระทั่งมาทราบว่าถูกออกหมายจับ จึงปรึกษา กับนางสมศรี เพื่อติดต่อขอมอบตัว และขอปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แจ้งว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายมานะ ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
โดยเฉพาะ ในวันเกิดเหตุได้ขึ้นไปที่ห้องพักของนายจิ๊บ และนายโจ๊ก พร้อมหยิบอาวุธปืนอูซี่ภายในห้องพักติดตัวมาด้วย และพอเกิดเหตุวิสามัญ จึงขับรถกระบะและนำอาวุธปืนอูซี่ติดตัวไปโยนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณเชิงสะพานวัดกษัตราธิราช อ.พระนครศรีอยุธยา แต่นายมานะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขณะที่ได้ประสานนักประดาน้ำไปงมหาอาวุธปืนอูซี่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป