กวนอิมไม่ให้พบผบช.สันติบาล

ผบช.สันติบาลรุดตรวจสอบเจ้าแม่กวนอิม"ชิงไห่" แต่โดนลูกศิษย์ขวางไม่ให้เข้าพบ อ้างไม่สะดวก เจ้าแม่ต้องสั่งสอนลูกศิษย์นั่งสมาธิ ขณะที่ทั้งนอกและในโรงแรมคลาคล่ำไปด้วยสาวกนับหมื่น ชาวต่างชาติแห่กันมาเพียบ ทุกคนต้องจ่ายคนละ 11,000 บาท ค่าลงทะเบียนร่วมสวดมนต์ ฟังคำสั่งสอนเจ้าแม่ แถมยังวางขายซีดี เสื้อผ้า เครื่องเพชรแพงระยับ ตุ้มหู 1 คู่ ราคาครึ่งแสน มีรปภ.จากไต้หวัน อ้างเป็นเทพอารักขาเจ้าแม่ คุมตรวจเข้ม ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด แม้แต่สันติบาลก็เคยโดนมาแล้ว กว่าจะเคลียร์กันได้ทำเอาวุ่นวาย

จากกรณีนางชิงไห่ ชาวเวียดนาม อ้างตัวว่าเป็นร่างอวตารของเจ้าแม่กวนอิมกลับชาติมาเกิด โดยใช้ชื่อว่า "อนุตราจารย์ชิงไห่" มาเปิดโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ให้ลูกศิษย์ชาวไทยและจีนจากหลายประเทศนับหมื่นคนมาร่วมนั่งสมาธิ และฟังคำสั่งสอน ทำเอาสถานที่ภายในโรงแรมไม่สามารถรองรับลูกศิษย์ที่แห่กันมาอย่างเนืองแน่น ขณะเดียวกัน ทางกรมการศาสนา และตำรวจสันติบาล ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นเกรงว่าจะเป็นการเผยแพร่ลัทธิ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เดินทางเข้าตรวจสอบการชุมนุมของกลุ่มผู้ศรัทธานางชิงไห่ ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมกลับชาติมาเกิด และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า มีลูกศิษย์มาร่วมชุมนุมประมาณ 15,000 คน ส่วนมากเป็นชาวต่างประเทศมากกว่า 55 ชาติ โดยการชุมนุมเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. และจะไปสิ้นสุดในวันที่ 4 ธ.ค. ผู้เข้าร่วมชุมนุมจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 11,000 บาท และต้องลงทะเบียนเพื่อจะได้จัดคิวเข้าร่วมสวดมนต์ และรับฟังคำสั่งสอนจากนางชิงไห่ ทำให้ห้องของโรงแรมถูกลูกศิษย์ของนางชิงไห่จองเต็มหมด ทำให้ไม่เพียงพอ ลูกศิษย์บางส่วนต้องไปเปิดโรงแรมใกล้เคียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าตรวจสอบของตำรวจสันติบาลยังพบว่า ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ศรัทธานางชิงไห่ ตรวจสอบรถยนต์ที่เข้าออกโรงแรมตลอดเวลา โดยมีวิทยุสื่อสารคอยติดต่อกันตลอด ส่วนลานจอดรถของโรงแรมจะตั้งเต็นท์บริการอาหาร ส่วนมากเป็นอาหารประเภทผักผลไม้ มีประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากมาใช้บริการ ทุกคนต้องติดบัตรประจำตัว มีรูปถ่ายของบุคคลนั้น ระบุชื่อและสัญชาติด้วย ส่วนบริเวณชุมนุม จะใช้ห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมจุคนได้ครั้งละ 5,000 คน ที่บริเวณทางเข้าเป็นโถงมีรูปวาดฝีมือของนางชิงไห่ พร้อมทั้งระบุราคา

นอกจากนี้ ยังมีโคมไฟที่เป็นฝีมือการทำของนางชิงไห่ ด้วย ส่วนโต๊ะรอบๆ บริเวณจะมีรูปภาพในท่าทางต่างๆ ของนางชิงไห่ พร้อมด้วยซีดีบรรยายคำสั่งสอนจำหน่ายให้กับผู้สนใจ อีกทั้งยังมีลูกศิษย์นำเครื่องเพชร และเสื้อผ้าที่มีตราสัญลักษณ์ของนางชิงไห่มาจำหน่ายให้ผู้ศรัทธา เท่าที่สังเกตเครื่องเพชรแต่ละชิ้นจะตั้งชื่อในลักษณะเป็นมงคล และราคาแต่ละชิ้นค่อนข้างแพง อาทิ ตุ้มหู 1 คู่ ราคาถึง 1,300 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 52,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนบริเวณประตูทางเข้าห้องแกรนด์บอลรูม จะมีรปภ.คอยตรวจไม่ให้บุคคลภายนอก หรือผู้ศรัทธาที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าไปโดยเด็ดขาด และจากการตรวจสอบทราบว่ารปภ.ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนไต้หวัน แต่ละคนมีความเชื่อว่าตนเองเป็นเทพที่มาอารักขาเจ้าแม่กวนอิม ขณะที่การเข้าไปภายในจะต้องจัดคิวเป็นเวลา โดยในวันหนึ่งจะแบ่งเป็น 3 เวลา เริ่มตั้งแต่ 09.00-16.00 น., 18.00-24.00 น., และ 24.00-07.00 น. จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าภายในห้องแกรนด์บอลรูม ถูกจัดให้เวทีมีโคมไฟสีทอง และมีแสงสว่างสลัวๆ แต่ภายในห้องจะปิดไฟมืดหมด กลุ่มผู้ศรัทธาจะนั่งกับพื้น ขัดสมาธิ และใช้ผ้าคลุมศีรษะ โดยอ้างว่าไม่ให้มีเสียงรบกวนจากภายนอก ส่วนการสั่งสอนของนางชิงไห่ จะบรรยายเป็นภาษาจีน และจะไม่ให้ถ่ายภาพภายในอย่างเด็ดขาด โดยอ้างเป็นการทำลายสมาธิ

พล.ต.ท.ธีระเดช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการชุมนุมของกลุ่มผู้ศรัทธานางชิงไห่ ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รายงานว่าเป็นการชุมนุมอย่างสงบ ไม่มีการนำลัทธิความเชื่ออะไรมาแอบแฝง แต่การขอเข้าพบนางชิงไห่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของทีมงานรายงานว่าไม่สะดวก เพราะนางชิงไห่ต้องสอนลูกศิษย์ทำสมาธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการตรวจสอบยังทราบด้วยว่า นางชิงไห่เปิดห้องโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จำนวน 3 ห้อง หมายเลข 1102, 1104, 1106 แต่บางคืนนางชิงไห่จะไม่พักที่โรงแรมนี้ จะไปพักที่โรงแรมรอยัลบีช พัทยา แทน และการเดินลงมาสอนลูกศิษย์จะเป็นความลับ เนื่องจากรปภ.หวั่นเกรงว่าลูกศิษย์จำนวนมากจะเข้ามารุมล้อม และอาจเกิดอันตรายต่อนางชิงไห่ได้ อย่างเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา มีตำรวจสันติบาลเข้าไปถ่ายรูปนางชิงไห่ ปรากฏว่าถูกรปภ.ล็อกตัวจนเกิดความวุ่นวาย ก่อนจะเจรจากันจนเหตุการณ์สงบ และเมื่อมีบุคคลแปลกหน้าเข้ามา จะแจ้งข่าวและมีรปภ.เข้ามาตรวจสอบทันที พร้อมทั้งห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด

สำหรับประวัตินางชิงไห่ เป็นชาวเวียดนามโดยกำเนิด พ่อเป็นแพทย์จีนแผนโบราณ เมื่ออายุได้ 18 ปี เดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาย้ายไปประเทศเยอรมนี และแต่งงานกับชาวเยอรมันอยู่กินได้ 2 ปี ก็หย่า จากนั้นออกศึกษาปฏิบัติธรรม โดยอ้างว่าบรรลุธรรมที่เทือกเขาหิมาลัย ต่อมาเผยแผ่คำสอนของเจ้าแม่กวนอิมจนมีผู้ศรัทธาไปทั่วโลก

ส่วนการติดต่อประสานงานของกลุ่มผู้ศรัทธาจะผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และผ่านทางเครือข่ายทีวีช่อง อีทีทีวี ของเอเชีย และอีทีทีวีอเมริกา ส่วนในประเทศไทยจะมีชมรมปฏิบัติธรรมอนุตราจารย์ชิงไห่ (ประเทศไทย) ตั้งอยู่เลขที่ 395/2 ซอยวัดโพธิ์แมน ถนนสาธุประดิษฐ์ 19 เขตยานนาวา กทม. 10120