เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แก้วดวงโต ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่
แถลงข่าวจับกุมตัวนายปิยะพงษ์ ปราชญ์กุลนันท์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/1 ตรอกโชฎึก แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงค์ กทม. พร้อมด้วยของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อต่างๆ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาเชียงใหม่ 2 เล่ม มีเงินหมุน เวียนอยู่กว่า 300,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่า
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่วางไว้ในห้องเรียน ระเบียงหน้าห้องเรียน ในหอสมุดกลาง และในคณะแพทย์ ศาสตร์ ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ หายไปรวมแล้วกว่า 30 เครื่อง คาดว่าถูกคนร้ายโจรกรรมไป เจ้าหน้าที่จึงส่งกำลังไปดักซุ่มรออยู่ ต่อมาเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องสงสัยคือนายปิยะพงษ์ ซึ่งแต่งตัวคล้ายนักศึกษา เดินเข้าไปตามห้องเรียนและห้องพักอาจารย์ ก่อนจะฉวยเอาโน้ตบุ๊กไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงตามไปจับกุมตัวได้ที่หน้าหอสมุดกลาง ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลแล้วไปตรวจค้นที่หอพักไม่มีชื่อ ซอยข้างวัดเจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ผู้ต้องหาเช่าไว้ พบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรวม 8 เครื่อง
สอบสวนนายปิยะพงษ์ ให้การรับสารภาพ ว่า เรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในกทม. ก่อนมาทำงานผลิตสื่อด้านไอที
ต่อมาถูกไล่ออกจากงาน จึงย้ายมาอยู่จ.เชียงใหม่เพื่อหางานทำ แต่ไม่มีงานให้ทำ ทำให้ไม่มีเงินต้องไปอาศัยตึกจอดรถมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นที่หลับนอน และเริ่มขโมยโน้ตบุ๊กของนักศึกษาที่ชอบวางชาร์จไฟไว้ไปขาย ต่อมาเห็นว่ารายได้ดีจึงเริ่มขโมยเรื่อยมา โดยจะแต่งตัวเป็นนักศึกษาบ้าง อาจารย์บ้าง เพื่อไม่ให้ใครสงสัย 2 เดือนที่ผ่านมาขโมยไปประมาณ 30 เครื่อง ส่วนเงินที่ได้นำไปใช้หนี้บัตรเครดิตและเที่ยวเตร่
พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกครั้งว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาผู้ต้องหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ มีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาทยอยมาดูของกลางแล้ว
และจากการตรวจค้นห้องพักผู้ต้องหา พบตั๋วจำนำที่คนร้ายนำคอมพิวเตอร์ไปจำนำไว้กว่า 20 ใบ จึงให้พนักงานสอบสวนติดตามโน๊ตบุ๊กที่คนร้ายนำไปจำนำ มาคืนเจ้าของ และอยากให้ร้านที่รับจำนำที่รับจำนำโน๊ตบุ๊กจากผู้ต้องหานำมาคืนตำรวจแล้วจะไม่มีผิด แต่หากตำรวจสืบสวนแล้วไปยึดของกลางมาจากร้าน เจ้าของร้านจะโดนข้อหารับซื้อของโจร