สั่งจับตาย จิ๊ป ไผ่เขียว ภัยสังคม

"อัศวิน" สั่งพลิกแผ่นดินล่า "จิ๊ป ไผ่เขียว" แย้มรีบมอบตัว ไม่งั้นถูกจับตายเหมือนพี่ชาย สั่งคุมชายแดนเข้ม หวั่นเผ่นหนีเขมร

กรณีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ยารีส ทะเบียนป้ายแดง ก 3271 ปทุมธานี มีนายจักรพันธ์ ดีผิว เป็นผู้ขับขี่ ขณะพาครอบครัวเดินทางมาจาก จ.ลพบุรี เพื่อไปหาญาติที่ จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ ด.ช.โภคิน หรือน้องโตมี่ อายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสิ้นใจอย่างสลดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ธ.ค. ถัดมาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตายมือยิงน้องโตมี่ได้ หลังจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) รรท.ผบช.ภ.1 สืบทราบว่า นายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว และนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊บ ไผ่เขียว สองพี่น้องต้องสงสัยพักอยู่ที่ สไมล์ แมนชั่น อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเข้าจับกุม ปรากฏว่าเมื่อนายชาญชัยเห็นตำรวจได้ชักปืนยิงต่อสู้ จึงถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนนายนพพล หรือจิ๊บ ไผ่เขียว หลบหนีไปได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (12 ธ.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ ปปส. ได้นำของกลางที่ยึดได้ภายในห้องพักหมายเลข 4701, 4707 และ 4713 สไมล์ แมนชั่น ที่นายชาญชัยและนายนพพลพักอยู่กับแฟนสาวอีก 2 คน มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ประกอบด้วย อาวุธปืนทั้งปืนสั้นและยาวนานาชนิดรวม 20 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนกล๊อก 3 กระบอก ซึ่ง 1 ใน 3 เป็นปืนที่ใช้ยิงรถโตโยต้า ยารีส เป็นเหตุให้น้องโตมี่เสียชีวิต พร้อมกระสุนปืนจำนวน 953 นัด เงินสด 8,380,390 บาท ทองรูปพรรณหนัก 5 บาท ยาบ้า 32,608 เม็ด ยาไอซ์ 37.88 กรัม รถเก๋ง 2 คัน รถปิกอัพ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 17 คัน       
   
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สองพี่น้องต้องสงสัยคู่นี้มีหมายจับหลายคดี อาทิยิงแหกด่านตำรวจที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ยิงปืนในที่สาธารณะเป็นประจำ

และในวันเกิดเหตุยิงรถโตโยต้า ยารีสนั้น มีพยานเห็นทั้งสองใช้จักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นซุปเปอร์โฟร์ สีแดง-ดำ และปลอกกระสุนปืนก็ตรงกับปืนกล๊อกของนายชาญชัย ที่ใช้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกวิสามัญฆาตกรรมที่สไมล์แมนชั่น สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ยึดได้เป็นจำนวนมากนั้น เชื่อว่าน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ เพราะมีความคล่องตัวในการหลบหนี ส่วนนายจิ๊บ ไผ่เขียว ขอแนะให้ญาตินำมาเข้ากระบวนการยุติธรรม เพื่อจะได้ไม่ต้องสูญเสียอีก และถ้ายังหลบหนีไม่ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะตามจนถึงที่สุด

วันเดียวกัน พ.อ.มล.ประวีร์ จักรพันธุ์ ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา

ได้สั่งการให้ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.เสกสรร วัฒนพงษ์ สวญ.สภ.คลองลึก และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว ร่วมกันนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ ออกลาดตระเวนตามเส้นทางเลาะตะเข็บแนวชายแดน และจัดชุดดักซุ่มตามจุดต่างๆ เพื่อปิดตายช่องทางเถื่อนตามแนวชายแดนด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่สามารถลักลอบออกไปฝั่งเขมรได้ทุกช่องทาง เพื่อป้องกันและสกัดกั้น จิ๊บ ไผ่เขียว หลบหนีออกทางฝั่งกัมพูชาได้ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ทุกจุดเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจ เนื่องจากจิ๊บ ไผ่เขียว มีอาวุธปืนและสามารถต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้นอย่างเข้มงวดยังไม่พบวี่แววแต่อย่างใด
 
ด้าน นายสุพัดและนางสำรวย ดีผิว พ่อและแม่ของน้องโตมี่

พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้เดินทางมาที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อรับศพน้องโตมี่ โดยนางสำรวย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจเป็นที่สุดที่ต้องเสียน้องโตมี่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ส่วนคนร้ายที่ยิงน้องโตมี่นั้นตนขออโหสิกรรมให้ เพื่อเป็นบุญกุศลให้กับน้องโตมี่ และตนรู้สึกดีใจที่ทางตำรวจสามารถจับตายคนร้ายได้ ส่วนที่เหลือก็ขอให้จับได้โดยเร็ว
       
"น้องโตมี่เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย มีความกตัญญูกับพ่อแม่ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แม้แต่น้อย ตั้งแต่เล็กๆ น้องโตมี่ชอบตำรวจเป็นชีวิตจิตใจ เขาเคยบอกว่าโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ จึงอยากขอกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า อยากให้พี่ชายของน้องโตมี่คือ นายจักรพันธ์ ดีผิว ซึ่งกำลังเรียนอยู่มัธยมปลาย ให้เข้ารับราชการตำรวจแทนน้องโตมี่ สำหรับศพของน้องโตมี่จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี" นางสำรวย กล่าวทั้งน้ำตา
      
ในส่วนของ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

ได้เดินทางมาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ และได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวของน้องโตมี่จำนวนหนึ่ง และได้กล่าวว่าทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้แสดงความเสียใจและฝากเงินมาช่วยเหลือจำนวน 2 หมื่นบาท เพื่อทำบุญกับน้องโตมี่ ในส่วนของพี่ชายของน้องโตมี่ที่อยากจะเข้ารับราชการเป็นตำรวจนั้น ตนจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาเป็นพิเศษต่อไป.