ล่าจิ๊บ ปืนกล็อก มือฆ่าโตมี่ หนูน้อยสิ้นลมแล้ว

สิ้นใจ- พ่อแม่ร่ำไห้ปิ่มขาดใจต่อหน้าศพด.ช.โภคิน ดีผิว อายุ 12 ปี หรือน้องโตมี่
ที่สิ้นลมแล้วจากพิษกระสุนที่ศีรษะ โดยตร.อยุธยาออกล่าตัวคนร้าย
 นายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 23 ปี หรือจิ๊บ ปืนกล็อก (ภาพเล็ก) ตามข่าว

สลด'น้องโตมี่' สิ้น ใจแล้ว หลังทนทรมาน มาครบสัปดาหŒ พ่อแม่ กอดศพร่ำไห้ ตร.ระดม ล่า 'ไอ้จิ๊บ ปืนกล็อก' มือฆ่าแกะรอยจากปลอกกระสุน 9 ม.ม.ในที่เกิดเหตุ ตรงกับที่ยิงปืนเล่นในวันลอยกระทง เผยประวัติสุดร้าย เป็นทั้งนักค้ายาบ้า ยิงถล่มด่านตร. มีหมายจับติดตัวหลายคดี พกปืนกล็อก 9 ม.ม. เป็นเขี้ยวเล็บ แถมยังชอบเล่นรถจยย.รุ่นใหญ่อีกด้วย

จากกรณีคนร้ายใช้ปืนยิงใส่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส ป้ายแดง กข 3271 ปทุมธานี ทำให้ ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือ 'น้องโตมี่' อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนหนองม่วง จ.ลพบุรี ที่นั่งมาในรถพร้อมครอบครัว รวม 7 คน ถูกยิงที่หน้าผาก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ช่วงหลัก ก.ม. 1 ขาเข้ากทม. ต.เชียงรากน้อย อ.บาง ปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งล่าสุดตร. เตรียมออกหมายจับมือปืนแล้ว ในขณะที่อาการ 'น้องโตมี่' ญาติรอปาฏิหาริย์ช่วยชีวิต ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เริ่มเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ที่ห้องประชุมภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบก. เรียกตำรวจสภ.พระอินทร์ราชา และชุดสืบสวนภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เข้าประชุมหาความคืบหน้าในคดี โดยใช้เวลากว่า 2 ช.ม. จึงเสร็จสิ้น

พล.ต.ต.อนุรักษ์ เปิดเผยว่า จากการสืบ สวนสามารถระบุได้ว่าคนก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ค่อนข้างชัดเจน

เพราะหากเป็นคนต่างพื้นที่จะต้องมีเป้สะพาย หรือมีสัมภาระติดตัวมา ซึ่งคนร้ายชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี ส่วนจะเป็นนายจิ๊บผู้ต้องสงสัยหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ทั้งนี้ คนร้ายน่าจะมีความโกรธแค้นกับรถลักษณะคันดังกล่าวพอสมควร เพราะวิธีการยิงและลักษณะ การยิง ไม่ใช่เป็นการยิงด้วยความคึกคะนองอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นประเด็นอะไรต้องรอการขยายผล และจากข้อมูลที่มอบหมายให้ทุกสถานีไปตรวจสอบ พบว่ามีผู้ครอบครองอาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. ยี่ห้อกล็อก มีทะเบียน ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 465 กระบอก จึงให้แต่ละท้องที่นำอาวุธปืนไปทดลองยิง แล้วส่งปลอกมาเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนของคน ร้ายที่ตกในที่เกิดเหตุ ขณะนี้แนวทางการสืบ สวนมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร

วันเดียวกัน ที่สภ.พระอินทร์ราชา อ.บาง ปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาเรียกประชุมชุดทำงานอีกครั้ง ก่อนสั่งให้เจ้าหน้าที่แยกย้ายออกทำงาน

นายจักรพันธ์ ดีผิว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/2 ม.4 ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี พี่ชายน้องโตมี่ ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส คันเกิดเหตุ กล่าวว่า วันนี้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง สารวัตรเจ้า ของคดี โทรศัพท์ติดต่อให้ตนเดินทางมาพบ เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของคนร้าย โดยพ.ต.ท.สมศักดิ์ได้นำรูปรถจยย. ฮอนด้า ซีบีอาร์ ที่ถ่ายในคืนวันจำลองเหตุการณ์มาให้ดูอีกครั้ง และซักถามลักษณะ การแต่งกายของคนร้ายทั้งสองคนและลักษณะของรถจยย. ที่ใช้ก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งตนก็ยืนยันตามรูปภาพว่าเป็นรถจยย.ที่มีลักษณะคล้ายรถของคนร้ายมากที่สุด และย้ำตามเดิมว่า คนร้ายใส่เสื้อแจ๊กเกต สีดำ กาง เกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ เวลาขับรถคนขับจะโย้ตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายจะนั่งตัวตรง ซึ่งตนขอยืนยันว่าพวกเราไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร รวมทั้งนายสุทัศน์ ดีผิว พี่ชายที่นั่งมาด้วยกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับใครทั้งนั้น ไม่เข้าใจว่าคนร้ายทำเพื่อประสงค์สิ่งใด

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าจับตาผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง คือ นายจิ๊บ หรือชื่อจริง นายนพพล ประ สงค์ศิล หรือ 'จิ๊บ ไผ่เขียว' หรือ 'จิ๊บ ปืนกล็อก' อายุ 23 ปี

มีภูมิลำเนาอยู่ในชุมชนไผ่เขียว ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรี อยุธยา โดยพบว่า "นายจิ๊บ" มีพฤติกรรมชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ และชอบยิงปืนเล่นตามสถานที่สาธารณะ โดยเมื่อช่วงวันลอยกระทงที่ผ่านมา "นายจิ๊บ" ยิงปืนในชุมชนไผ่เขียว 2 แม็ก จนชาวบ้านแจ้งตำรวจ แต่นายจิ๊บหลบหนีไปก่อน ซึ่งในวันนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนปืนเอาไว้ ชุดสืบสวนจึงนำปลอกกระสุนปืนดังกล่าว มาเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุคดียิงน้องโตมี่ พบว่าน่าจะยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน นอกจากนี้ ยังได้ข้อมูล ด้วยว่านายจิ๊บนิยมขับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ มักจะนัดรวมกลุ่มกับแก๊งรถใหญ่ตามร้านเหล้าปั่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลอีกครั้ง

สำหรับประวัติของ "นายจิ๊บ" มีพี่น้อง 3 คน โดยนายจิ๊บ เป็นคนกลาง และทั้ง 3 คน จะพกปืนติดตัวตลอดเวลา

ซึ่งนายจิ๊บจะใช้ปืนกล็อก ซึ่งเป็นปืนที่มีราคาแพง และมีความแม่นยำ อาจเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงน้องโตมี่ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า นายจิ๊บ เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของชุมชนไผ่เขียว อ.บางปะอิน ไม่อยู่ติดบ้าน ปลูกบ้านในราคา 3 ล้าน หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ นายจิ๊บยังไม่เข้าบ้านพักในชุมชน ไผ่เขียวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายจิ๊บมีหมายจับของตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีในคดียิงตำรวจ ช่วงก่อนวันลอยกระทงที่ผ่านมา และคดียิงใส่ด่านตรวจของตำรวจปทุม ธานีถึง 2 ครั้งด้วยกัน มีหมายจับทั้งใน จ.ปทุมธานี และจ.พระนครศรีอยุธยา

วันเดียวกัน ที่ร.พ.พระนั่งเกล้า จ.นนท บุรี ซึ่งเป็นสถานที่รักษาอาการน้องโตมี่ วันนี้แพทย์ได้เข้าตรวจอาการน้องโตมี่ พบว่าอาการยังคงทรงตัว ไม่มีการตอบสนองและต้องเฝ้าดูอาการตลอด นางสำรวย ดีผิว แม่น้องโตมี่ กล่าวว่า ถึงแม้อาการลูกชายยังทรงตัว แต่ตนก็ไม่ขอให้หมอถอดเครื่องช่วยหายใจ จะรอจนกว่า น้องโตมี่จะฟื้นขึ้นมา หรือถ้าไม่ฟื้นก็ขอให้เขาหมดลมหายใจไป และเมื่อวันก่อนได้มีเจ้าหน้าที่จากสภากาชาด ไทย จะมาขอรับบริจาคอวัยวะของน้องโตมี่ แต่ตนและญาติยังไม่ให้คำตอบ เพราะหวังว่าอาจเกิดปาฏิหาริย์ทำให้ลูกฟื้นขึ้นมา

ด้านพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. (ปป 1) รับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้าย ว่า

ตนลงมาติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นคดีสำคัญ ทางรรท. ผบช.ภาค 1 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ผู้ควบคุมคดีกับทีมสืบสวน สอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบปลอกกระสุน ปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ พบว่าตรงกับปลอกกระสุนปืนที่มีผู้ก่อเหตุช่วงวันงานลอยกระ ทง ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปลอกกระสุนที่พบ คือ 9 ม.ม. ยิงมาจากอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก คาดว่าวัตถุพยานที่มีอยู่ สามารถสาวไปถึงตัวคนลงมือได้ ขณะนี้กำลังรอพนักงานสอบสวนอนุมัติออกหมายจับ ในส่วนของการสืบสวนจับกุมคนร้ายได้มอบหมาย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย คาดว่าจะได้ตัวในไม่ช้า

ต่อมาเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.มงคล ขาวผ่อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ว่า น้องโตมี่ ได้เสียชีวิตแล้ว

จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากสถาบันนิติ วิทยาศาสตร์ เมื่อไปถึงห้องเก็บศพ พบนายพลมัย ดีผิว อายุ 70 ปี นายจักรพันธ์ ดีผิว อายุ 19 ปี ปู่และพี่ชายของน้องโตมี่ยืนรออยู่หน้าห้องเก็บศพ

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 18.33 น. ขณะที่ตนและปู่น้องโตมี่เฝ้าดูอาการอยู่เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้ามาบอกให้ไปดูน้องโตมี่ เนื่องจากน้องโตมี่อาการทรุดลง ชีพจรอ่อนมาก เมื่อเข้าไปดู ไม่ถึง 5 นาที ร่าง กายของน้องโตมี่ก็นิ่งสงบลง หมดลมหายใจ ตนจึงรีบโทรศัพท์ไปบอกแม่ พ่อ ให้รีบมา ที่ร.พ.

ต่อมา นายสุพัด และนางสำรวย ดีผิว พ่อแม่ของน้องโตมี่ เดินทางมาถึง ก่อนจะเดินเข้าไปดูร่างไร้วิญญาณของน้องโตมี่ โดย นางสำรวย ได้ใช้มือลูบใบหน้าของน้องโตมี่อย่างทะนุถนอม น้ำตานองหน้า

บรรยากาศเป็นไปด้วยความหดหู่ นางสำรวย พูดกับร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชาย ว่า "หนูอายุแค่ 12 ปี ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็มาทิ้งแม่ไปแล้ว ขอให้น้องโตมี่หลับให้สบายนะลูก ลูกเป็นลูกที่กตัญญู ขนาดวันพ่อจะมากราบพ่อ ก็ไม่ได้กราบ ต้องมารับเคราะห์แทนทุกคนในครอบครัว" หลังจากนั้นนางสำรวยกับนายสุพัด ก้มลงหอมแก้มลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายทั้งน้ำตานองหน้า

นางสำรวย กล่าวว่า จะนำศพลูกชาย กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลพบุรี ขณะที่นายพลมัย กล่าวว่า น้องโตมี่เป็นเด็กดี อยู่บ้านไม่เคยเกี่ยงเรื่องงานบ้าน ขยันขันแข็งช่วยย่าทำงานมาตลอด ไม่ว่าจะงานอะไร ขนาดรถย่ำนายังขับเป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการชันสูตรของแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าน้องโตมี่มีอาการสมองบวม มีรอยเขียวจากอาการบวม เจ้าหน้าที่นำศพส่งสถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อผ่าชัน สูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมา 20.30 น. ตำรวจจ.พระนครศรี อยุธยา รุดเข้าตรวจค้นที่ สไมล์ แมนชั่น ม.2 ต.คานหาม จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อหาตัว 'ไอ้จิ๊บ' แต่ปรากฏว่าไปเจอตัวนายชาญชัย หรือ ไอ้โจ๊ก อายุ 29 ปี พี่ชายไอ้จิ๊บ ซ่อนตัวอยู่ เมื่อเห็นตำรวจ ไอ้โจ๊กชักปืนยิงใส่ทันที จึงถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์