ขออย่าให้ ประกันตัว โจ๋มาเฟีย

กรณี ด.ช.ธีรพงศ์ แหวนเงิน อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ถูกกลุ่มวัยรุ่น รวม 5 คน รุมแทงเสียชีวิตอย่างสยดสยอง เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างแฟชั่นมอลล์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ย. ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ 2 คน คือนายบารมี หรือนิ่ม คำเมืองคุณ อายุ 19 ปี และนายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สำหรับนายบารมีเคยถูกจับคดีพกพาอาวุธมีด ส่วนนายเอกอ้างตัวว่าเป็นลูกจ่าทหาร ร.1 พัน.4 อยู่ในย่านถนนวิภาวดีฯ มีหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นติดตัวอยู่ นายบารมีผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธมีดแทงเหยื่อจนถึงแก่ความตายอ้างว่า

สาเหตุที่ทำร้าย ด.ช.ธีรพงศ์ เนื่องจากจำได้ว่าผู้ตายอยู่ในกลุ่มเดียวกับเด็กสาวที่พวกตนเคยเข้าขอเบอร์โทรศัพท์ แต่เมื่อโทร.ไปหากลับไม่ติด จึงเข้าไปต่อว่าและตบสั่งสอน แต่ผู้ตายร้องโวยวายจึงใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวหมดแล้ว มีนายอรรคพล หรืออาร์ต อยู่เอม อายุ 19 ปี นายอ้วน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายอั๋น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ล่าสุดชุดสืบสวน สน.ดินแดง จับกุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 1 คน

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 พ.ย. พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรมย์ สว.สส.สน.ดินแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุมนายอั๋นได้แถวกุลพรอพาร์ตเมนต์ ซอยบุญชูศรี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. นำตัวส่ง พ.ต.ท.ชยุทธ์ มารยาท รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ทำการสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน เบื้องต้นนายอั๋นให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุร่วมลงมือทำร้ายผู้ตาย โดยเป็นคนล็อกแขนให้นายบารมี หรือนิ่มเป็นคนกระหน่ำแทง

ต่อมา พ.ต.ท.ชยุทธ์กล่าวว่า วันนี้สอบปากคำผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ 2 คนมาสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนี้ จากการสอบปากคำนายบารมี หรือนิ่ม ให้การว่าก่อนแทง ด.ช.ธีรพงศ์เสียชีวิต ยังไปไล่แทงเด็กวัยรุ่นในย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ตอนนี้ตำรวจกำลังประสานงานให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มกับนายบารมีสำหรับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นลูกหลานทหารไม่ได้เรียนหนังสือ จะมารวมกลุ่มมั่วสุมกินเหล้าอยู่ย่านวิคตอรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วออกเดินเกาะแกะจีบสาว ไถเงินเด็กวัยรุ่นชายด้วยกัน ถ้าไม่ให้จะรุมทำร้าย หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดเสร็จแล้วจะนำตัวนายเอก และนายอั๋น ซึ่งมีอายุ 17 ปี ไปฝากขังไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กบ้านเมตตา ส่วนนายบารมี หรือนิ่มอายุ 19 ปี จะนำไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯและไม่ขอรับตัวกลับ

พ.ต.ท.ชยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 2 คน คือนายอรรคพล หรืออาร์ต อยู่เอม และนายอ้วน พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรมย์ สว.สส. จัดชุดติดตามล่าตัวตามแหล่งที่คาดว่าจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ขณะเดียวกันยังประสานตำรวจสายตรวจออกตรวจตราโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้ถี่ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยเกิดขึ้นอีก

ขณะที่นางบุญมี แหวนเงิน อายุ 41 ปี มารดาของ ด.ช.ธีรพงศ์ เผยว่า ตั้งแต่ตั้งศพบุตรชายบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ศาลา 4 วัดสะพาน ยังไม่เคยมีพ่อแม่หรือญาติผู้ต้องหาไปแสดงความเสียใจหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด

เมื่อไปบอกตำรวจที่โรงพักว่าอยากจะให้ผู้ต้องหาไปขอขมาศพ ก็เกรงกันว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 ธ.ค. ได้นัดญาติผู้ต้องหาให้ไปขอขมากันที่โรงพักถ้าไม่มีการมาขอขมาคงนอนตายตาไม่หลับ วันเสาร์นี้คงไม่เผาศพลูก และขออย่าให้ประกันตัวพวกนี้ เพราะเกรงว่าจะมาทำร้ายเพื่อนผู้ตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในตอนเช้าวันเดียวกันมีหญิงผู้หนึ่งโทรศัพท์เข้ามาอ้างตัวว่าเป็นพี่สาว น.ส. อมราวดี สายเย็น อายุ 19 ปี ที่ถูกระบุว่าอยู่กับผู้ตายในขณะเกิดเหตุและให้เบอร์โทรศัพท์แบบมั่วๆกับกลุ่มคนร้ายก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ 2-3 วัน หญิงคนดังกล่าวยืนยันว่า น.ส.อมราวดี น้องสาวไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์กับแก๊งวัยรุ่นดังกล่าวแต่อย่างใด