เมื่อเวลา 10.40 น.ที่รัฐสภา นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์
พร้อมด้วย นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นำรายชื่อส.ส.79 คน ยื่นต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 190 วรรคหก ขอให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าบันทึกผลการประชุมร่วมคณะกรรมาธิการไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ต้องนำเข้ารัฐสภาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 190 หรือไม่ โดยมีนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายศิริโชค กล่าวว่า เนื่องจากในคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อพิจารณาบันทึกผลเจบีซี ประชุมกันหลายนัดแต่มีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ว่า เจบีซี เป็นเอกสารที่มีลักษณะเป็นรายงานการประชุม จะถือเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องนำเข้าเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ หรือเป็นแค่การดำเนินการตามกรอบที่รัฐสภาได้อนุมัติไปแล้ว ดังนั้นเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่จะทำให้ข้าราชการสามารถทำงานได้อย่างสะดวก จึงสมควรให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ให้ชัดเจน ส่วนในระหว่างนี้กรรมาธิการจะเดินหน้าประชุมต่อหรือไม่ ก็ต้องนัดหารือกับประธานกรรมาธิการก่อน อาจจะเป็นการประชุมภายในก็ได้
เมื่อถามว่าเป็นการยื่นเพื่อต้องการถอดชนวนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคม หรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน พวกตนทำตามหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯจะนัดชุมนุมหรือไม่เป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว หากการชุมนุมสันติก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงอยากให้ดูที่เนื้อหาสาระของการชุมนุม ถ้าเป็นเรื่องที่ต้องมาแก้ไขก็ควรนำมาพิจารณา
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงหยิบเรื่องมาพิจารณาในช่วงที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯก็จะพิจารณาเรื่องมาตรา 190 ด้วย นายศิริโชค กล่าวว่า คนละประเด็น เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิ์ส.ส.แปรญัตติมาตรา 190 เข้ามาแล้ว ส่วนท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ต้องรอดูท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯก่อนว่าจะออกมาเช่นไร แล้วอาจจะต้องมีการมาคุยกัน