เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ได้รับแจ้งเหตุคนร้าย 4 คนใช้รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะ ใช้ปืนและมีดดาบเป็นอาวุธ เข้าปล้นทรัพย์ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาโรงพยาบาลสายไหม ถนนเฉลิมพงศ์ แขวง-เขตสายไหม
จึงสั่งการให้ พ.ต.ต. สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สวป.พร้อมกำลังสายตรวจ ตั้งด่านสกัดจับที่ปลายซอยสายไหม 39 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. ต่อมาพบ นายเจษฎา พันธุ์จบสิงห์ อายุ 32 ปี ขี่รถ จยย.ซูซูกิ สแปลช สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมี นายเอกลักษณ์ บุวทรา อายุ 21 ปี นั่งซ้อนท้ายผ่านมา จึงเรียกตรวจค้นในตัวพบอาวุธปืนปลอม 1 กระบอก มีดดาบ 1 เล่ม น้ำยาแต่งผม 7 รายการ ชุดหูฟังโทรศัพท์ 7 อัน ไพ่ 2 สำรับ ซิมโทรศัพท์ 13 ซิม และเงินสด 400 บาท
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน. บางเขน พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเจษฎา หรือ เบิร์ด พันธุ์จบสิงห์ อายุ 32 ปี นายเอกลักษณ์ หรือต้น บุวทรา อายุ 21 ปี และนายอำนาจ หรือโย โกมุท อายุ 20 ปี และ น.ส.หล้า (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี สัญชาติลาว พร้อมปืนปลอม อาวุธมีดสปาต้า รถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อแจ๊กเกต 2 ตัว บัตรเติมเงิน สุราต่างประเทศ ไพ่ หูฟัง มูสใส่ผม สเปรย์ระงับกลิ่นกาย รวม 24 รายการ
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดย นายเจษฎาให้การว่า ร่วมกับ นายเอกลักษณ์ ขี่รถ จยย.ตระเวนดูตามร้านเซเว่นฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ หากพบว่าร้านไหนมีลูกค้าอยู่น้อย ก็จะตรงเข้าไปใช้มีดกับปืนปลอมขู่เอาทรัพย์สินกับสินค้าในร้าน และจากการสอบสวนขยายผล ยังรับสารภาพว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ตระเวนก่อเหตุปล้นทรัพย์ตามร้านสะดวกซื้อในท้องที่ สน.โคกคราม สน.สายไหม สน.สมเด็จเจ้าพระยา สภ.คูคต สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ มาแล้วถึง 12 ครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พ.ต.อ.ปิยะวัชร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.2 พร้อมกำลัง ยังสามารถจับกุม นายสุริยัณต์ หรือ ต้อย สุริยะ อายุ 37 ปี กับนายสุริยนต์ หรือ ตุ้ม สุริยะ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 1444-1445/52 ลงวันที่ 9 ต.ค. 52 ในข้อหาร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่น, พก พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 52 ทั้งคู่ได้ร่วมกับนายชาลี หรือป่อง แซ่ลิ้ม ที่ถูกจับกุมไปแล้ว ยิงนายเกษมสันต์ หรือปุ้ย แจ้งอรุณ จนเสียชีวิต โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องหักหลังเรื่องยาเสพติด
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน. บางเขน พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเจษฎา หรือ เบิร์ด พันธุ์จบสิงห์ อายุ 32 ปี นายเอกลักษณ์ หรือต้น บุวทรา อายุ 21 ปี และนายอำนาจ หรือโย โกมุท อายุ 20 ปี และ น.ส.หล้า (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี สัญชาติลาว พร้อมปืนปลอม อาวุธมีดสปาต้า รถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อแจ๊กเกต 2 ตัว บัตรเติมเงิน สุราต่างประเทศ ไพ่ หูฟัง มูสใส่ผม สเปรย์ระงับกลิ่นกาย รวม 24 รายการ
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดย นายเจษฎาให้การว่า ร่วมกับ นายเอกลักษณ์ ขี่รถ จยย.ตระเวนดูตามร้านเซเว่นฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ หากพบว่าร้านไหนมีลูกค้าอยู่น้อย ก็จะตรงเข้าไปใช้มีดกับปืนปลอมขู่เอาทรัพย์สินกับสินค้าในร้าน และจากการสอบสวนขยายผล ยังรับสารภาพว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ตระเวนก่อเหตุปล้นทรัพย์ตามร้านสะดวกซื้อในท้องที่ สน.โคกคราม สน.สายไหม สน.สมเด็จเจ้าพระยา สภ.คูคต สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ มาแล้วถึง 12 ครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พ.ต.อ.ปิยะวัชร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.2 พร้อมกำลัง ยังสามารถจับกุม นายสุริยัณต์ หรือ ต้อย สุริยะ อายุ 37 ปี กับนายสุริยนต์ หรือ ตุ้ม สุริยะ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 1444-1445/52 ลงวันที่ 9 ต.ค. 52 ในข้อหาร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่น, พก พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 1 ต.ค. 52 ทั้งคู่ได้ร่วมกับนายชาลี หรือป่อง แซ่ลิ้ม ที่ถูกจับกุมไปแล้ว ยิงนายเกษมสันต์ หรือปุ้ย แจ้งอรุณ จนเสียชีวิต โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องหักหลังเรื่องยาเสพติด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
